“การุณ”แนะรัฐบาล-ส.ว.ยอมรับอำนาจประชาชน อัดไอ้โม่งไม่จริงใจส่งสัญญาณคว่ำร่าง พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ
(30 มีนาคม 2564) นายการุณ โหสกุล ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงกรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เรียก ประชุมรัฐสภา สมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณร่าง พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ ในวันที่ 7-8 เมษายน 2564 นั้น ถือเป็นโอกาสที่ดีที่สมาชิกรัฐสภาจะได้มาหาทางออกร่วมกัน เพราะ พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ ถือเป็นก้าวแรกในการเปิดทางให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในเรื่องสำคัญของประเทศ รวมทั้งความประสงค์ในการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อีกด้วย
อย่างไรก็ตามการส่งสัญญาณของสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว.บางท่านที่เตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความบทบัญญัติที่ถูกเพิ่มเติมเข้ามาในมาตรา 9 ของร่าง พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ ที่รัฐสภามีมติให้แก้ไขเพิ่มสิทธิให้รัฐสภาและภาคประชาชนสามารถเข้าชื่อร้องขอให้จัดทำประชามติได้ แม้จะเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่สามารถกระทำได้ แต่ประชาชนส่วนใหญ่เริ่มรู้สึกไม่สบายใจและสะท้อนเสียงมาว่าพฤติกรรมเช่นนี้จะเป็นการหาเหตุผลเพื่อใช้เป็นหลังพิงในการเตรียมคว่ำร่าง พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ หรือไม่ และการดำเนินการของส.ว. กลุ่มเดิมนี้เป็นไปตามความต้องการของใครบางคน ที่พยายามส่งสัญญาณให้คว่ำร่างเพราะไม่ต้องการให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศหรือไม่
นายการุณ กล่าวด้วยว่า ความพยายามที่จะเตะถ่วงร่าง พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ ถูกตั้งข้อสังเกตุจากหลายฝ่ายว่า เป็นเพราะบุคคลสำคัญในรัฐบาลและส.ว.บางกลุ่มไม่ยอมรับในอำนาจของประชาชน แม้อำนาจดังกล่าวจะเป็นไปตามรัฐธรรมนูญที่ประชาชนเป็นผู้สถาปนาขึ้นมาก็ตาม ดังนั้นเราจึงเครือข่ายผู้สืบทอดอำนาจทั้งหลายเคลื่อนไหวกันอย่างต่อเนื่องเพื่อสกัดกั้นการใช้อำนาจของประชาชนตาม พรบ.ประชามติที่ได้รับการแก้ไขในครั้งนี้
“ในฐานะผู้แทนราษฎร ผมไม่อยากเห็นรัฐบาลจับมือกับส.ว.เพื่อปล้นอำนาจประชาชน และผมไม่เชื่อว่าจะมีใครกล้าทำเช่นนั้น เพราะนั่นคือการฆ่าตัวตายทางการเมือง ยกเว้นคนบางพวกที่ได้อำนาจมาโดยไม่ต้องผ่านการเลือกตั้ง เพราะการจัดทำร่าง พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติในครั้งนี้ก็เพื่อให้ประชาชนมีอำนาจและมีส่วนร่วมในการปกครองประเทศ ซึ่งเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นจึงเชื่อว่ารัฐบาลและส.ว.จะเปิดใจกว้าง เพื่อให้ประเทศมีทางออกไม่เดินไปสู่ทางตันและหลุดพ้นความวุ่นวายทั้งปวง ซึ่งผมเชื่อว่า รัฐบาลและส.ว.คงจะไม่หวงอำนาจ และพร้อมที่จะคืนอำนาจอันชอบธรรมให้กับประชาชนด้วยความจริงใจอย่างแน่นอน” นายการุณ กล่าว