(16 เมษายน 2564) นายการุณ โหสกุล ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่าสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด ในไทย กลับมาระบาดหนักมากเป็นรอบที่ 3 ในแต่ละวันมีประชาชนติดเชื้อหลายพันคน หากยังไม่มีมาตรการควบคุมโรคที่ชัดเจนและรัฐบาลยังไร้ความสามารถในการจัดการทั้งๆที่ประเทศไทยมีระบบสาธารณสุขเป็นเบอร์ต้นๆของโลก เชื่อว่าจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นหลักหมื่นต่อวันอย่างแน่นอน เพราะผลจากการปล่อยปละละเลยคลัสเตอร์ทองหล่อ จนทำให้การแพร่กระจายโรคขยายตัวไปจนไม่มีคลัสเตอร์แล้ว

การระบาดรอบนี้ตนเองเห็นใจบุคลากรด้านสาธารณสุขที่ทำงานหนักในการควบคุมโรค แต่เจ้าหน้าที่อื่นๆของรัฐกลับละเลยหย่อนยานจนติดเชื้อกันเป็นจำนวนมาก แถมบางคนยังกลายเป็นพาหะแพร่เชื้อเสียเอง จนไทยเข้าสู่การระบาดในรอบที่ 3 ทั้งๆที่ประชาชนอดทนสู้กับเชื้อโควิดมาเป็นปีๆ แต่สุดท้ายต้องมารับเคราะห์จากความไม่รับผิดชอบของเจ้าหน้าที่รัฐและคนในรัฐบาล

นายการุณ กล่าวด้วยว่า การระบาดของ โควิด-19 ในครั้งนี้ถือเป็นการทำลายโอกาสการฟื้นตัวเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งๆที่รออีกนิดเดียวรัฐบาลก็จะเปิดประเทศเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวและเตรียมเปิดต้อนรับการค้าการลงทุนที่จะหลั่งไหลเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย แต่ความหวังทุกอย่างต้องพังทลายลง เพราะการปล่อยปละละเลยของรัฐเสียเอง นอกจากนั้นยังทำให้ธุรกิจจำนวนมากต้องประสบเคราะห์กรรมซ้ำสาม ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก พ่อค้าแม่ขาย คนหาเช้ากินค่ำ ที่คาดหวังว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นช่วงสงกรานต์ต้องสิ้นหวังเป็นลมกันทั้งประเทศ

“การระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์อังกฤษระลอกนี้ กระจายเชื้อรวดเร็วมากจนวันนี้ประเทศไทยมีคนติดโควิดเพิ่มขึ้นทุกพื้นที่ เพียงวันเดียวพบผู้ติดเชื้อสูงหลายพันคน จน พล.อ.ประยุทธ์ ถึงกับหลุดปากออกมาว่า “อะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิด” ซึ่งใครได้ยินคงอดแปลความไม่ได้ว่าบิ๊กตู่ไร้ความสามารถจนถอดใจยกธงขาว ดังนั้นคนไทยคงพึ่งหวังอะไรจากรัฐบาลไม่ได้อีกแล้ว วันนี้ตนย่อมเป็นที่พึ่งของตนเท่านั้น จึงอยากเชิญชวนให้ทุกคนดูแลตัวเองและครอบครัวให้ดีและปฏิบัติตัวตามหลักสากลเพื่อป้องกันการติดเชื้อด้วยความเคร่งครัดต่อไป” นายการุณกล่าว