“ศ.สุชาติ” แปลกใจ! ทำไมรัฐบาลไทยทำตัวเป็นโฆษกให้คณะรัฐประหารพม่า โดยให้ข่าวว่านายพลมิน อ่องหล่าย จะไปประชุมผู้นำอาเซียน ไม่ทราบว่าท่านไปในฐานะอะไรมีใครให้การรับรอง
(18 เมษายน 2564) ศาสตราจารย์ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวว่ารู้สึกแปลกใจและสงสัยเป็นอย่างมาก ที่กระทรวงการต่างประเทศไทยให้ข่าวว่า นายพลมิน อ่องหล่าย ตอบรับจะไปประชุมผู้นำอาเซียน ในวันที่ 24 เมษายน 2564 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ทำไมรัฐบาลไทยทำตัวเป็นโฆษกให้พวกพยายามยึดอำนาจในพม่า ไม่ทราบว่ามีประเทศใดให้การรับรองให้นายพลท่านนี้เป็นหัวหน้ารัฐบาลพม่า ท่านฯ ไปในฐานะอะไร
นายพลมินอ่องหล่าย นำกำลังทหารพร้อมอาวุธ พยายามยึดอำนาจการปกครองประเทศพม่า เมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2564 โดยอ้างเหตุผลว่าการเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ มีการร้องเรียน พวกนายทหารไม่กี่คนจึงต้องเข้ายึดอำนาจจากพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (National League for Democracy: NLD) นำโดย อองซาน ซูจี ซึ่งเป็นพรรคที่ประชาชนเลือกตั้งมาอย่างล้นหลามทั้ง 2 สภา คือ สภาผู้แทนราษฎร และสภาประชาชาติ การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2563 พรรค NLD ได้จำนวน สส. และ สว.มากกว่าคราวที่แล้วอีกด้วย คือได้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 258 ที่นั่ง จากจำนวนที่ต้องเลือกตั้ง 330 ที่นั่ง (ทหารแต่งตั้งอีก 25% คือ 110 ที่นั่ง รวมทั้งหมดเป็น 440 ที่นั่ง) สภาสูงหรือสภาประชาชาติได้ 138 ที่นั่ง จากจำนวนที่ต้องเลือกตั้ง 168 ที่นั่ง (ทหารแต่งตั้งอีก 25% คือ 56 ที่นั่ง รวมทั้งหมดเป็น 224 ที่นั่ง) ทั้ง 2 สภา พรรค NLD มีเสียงสนับสนุนประมาณ 80% “เขาจะโกงการเลือกตั้งไปทำไม” พวกนายทหารไม่กี่คนในประเทศด้อยพัฒนา มักชอบเข้าไปแทรกแซงและล้มการเลือกตั้งของประชาชนที่เป็นเจ้าของประเทศ ชอบอ้างโน่นอ้างนี่ แบบโง่เขลา ไม่สมเหตุสมผล ไม่น่าเชื่อถือ ฟังแล้วน่าขบขัน
จนถึงวันนี้ พวกกองทัพพม่าได้ใช้ทหาร เข่นฆ่าประชาชนอย่างเลือดเย็น ตายไปแล้วกว่า 700 คน บาดเจ็บเป็นจำนวนมากและจับไปขังกว่า 3,000 คน ประเทศตะวันตก สหรัฐรัฐฯและยุโรป ได้เรียกร้องให้ยุติการยึดอำนาจลงทันที ให้รัฐบาลที่ได้รับการเลือกตั้งมาบริหารประเทศ ได้มีการบอยคอตพวกพยายามยึดอำนาจเช่น ยึดทรัพย์สิน ไม่ร่วมทำธุรกรรมกับบริษัทที่พวกนายพลยึดอำนาจเป็นเจ้าของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ได้ประชุมกันหลายครั้งแล้วเพื่อประณามและจัดการกับพวกพยายามยึดอำนาจในพม่า ในที่สุด คงเกิดการจัดการกับพวกเผด็จการแบบประเทศลิเบีย
หนนี้ประชาชนพม่า คงได้มีโอกาสจับเป็นพวกเหล่านี้ เอาขึ้นศาลประชาชน, ขึ้นศาลโลก เพราะระบบศักดินาขุนนางขุนศึกในพม่าได้จบสิ้นไปนานแล้ว ดูตัวอย่างได้จาก การตายของพันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี ของลิเบีย, อีดี อามิน ผู้นำเผด็จการยูกันดา, ซัดดัม ฮุสเซน ผู้นำเผด็จการแห่งอิรัก, นายพลออกุสโต ปิโนเชต์ ประธานาธิบดีชิลีในสมัยรัฐบาลเผด็จการทหาร เป็นต้น
ศ. สุชาติ กล่าวต่อว่ายังไม่เห็นมีประเทศใดประกาศรับรองพวกพยายามยึดอำนาจในพม่า จึงน่าแปลกใจและสงสัยว่าทำไมรัฐบาลไทยจึงให้ข่าวว่า นายพลมิน อ่องหล่าย ตอบรับไปประชุมผู้นำอาเซียนและท่านไปในฐานะอะไร แม้กระทั่งพวกพยายามยึดอำนาจในพม่าเองก็ไม่ได้ให้ข่าว การที่รัฐบาลไทยแสดงตัวเป็นโฆษกให้นายพลมินอ่องหล่าย จึงดูเหมือนรัฐบาลไทยได้ให้การรับรองนายพลฯพวกยึดอำนาจเป็นรัฐบาลพม่าไปแล้ว เป็นการกระทำที่ดูแย่ ไร้สติปัญญา จะมีแต่ผลเสียต่อประเทศและประชาชนไทย ทั้งในด้านเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศ