“นิยม” ระบุ ขอให้สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ทบทวนอย่างรอบคอบกรณีพระสงฆ์ 5 รูปปาราชิกหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและไม่ควรมีการเมืองแทรกแซง
(22 เมษายน 2564) นายนิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ที่ปรึกษาอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาด้านพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่นๆ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงผู้มีอำนาจบางคน ที่ออกมาให้ความเห็นว่าพระทั้ง 5 รูป ที่ศาลตัดสินยกฟ้องจากกรณีที่ถูกกล่าวหาเรื่องเงินทอนวัด ปาราชิกนั้น ไม่ถูกต้อง เรื่องดังกล่าวต้องคิดให้รอบคอบ ซึ่งส่วนตัวมั่นใจว่าพระทั้ง 5 รูปยังคงเป็นพระอยู่แม้จะต้องเข้าเรือนจำ ซึ่งระเบียบของทางราชการต้องใส่ชุดขาว
จึงเชื่อว่าประเด็นที่มองว่าพระลาสิกขาแล้วไม่ใช่ข้อเท็จจริง ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทบทวนให้รอบคอบ ส่วนกรณีที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติออกมาแถลง ว่าพระทั้ง 5 รูป ปาราชิกและจะกลับมาครองสมณเพศ อีกไม่ได้เป็นมตินั้น ไม่ถูกต้อง ทั้งยังพูดในเชิงข่มขู่ว่าอาจถูกดำเนินคดีฐานแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์ ตนมองว่าต้องคิดใหม่ให้รอบคอบ เพราะสิ่งที่ให้ความเห็นไม่ใช่บรรทัดฐานที่ถูกต้อง
ขอให้ผู้มีอำนาจฟังความเห็นจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะผู้เชี่ยวชาญในวงการพระพุทธศาสนา อย่างศาสตราจารย์จำนงค์ ทองประเสริฐ หรืออาจารย์สมภาร พรมทา นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านพระพุทธศาสนา ที่ได้ถวายความเห็นต่อสมเด็จพระสังฆราช ว่าพระสงฆ์ทั้ง 5 รูปไม่เข้าข่ายปาราชิก ไม่พ้นสภาพจากความเป็นพระ เพราะไม่ได้สึกและลาสิกขา และจากการศึกษาบันทึกการพิจารณาคดีของศาล โดยเฉพาะในกระบวนการสืบพยานก็ระบุชัดว่าคณะสงฆ์ทั้ง 5 รูปยังเป็นพระ ต้องไม่เอาการเมือง เข้ามาใส่ อย่าเอากิเลสของตนเองมาใส่
นายนิยม ยกตัวอย่างด้วยว่าในอดีต มีพระหลายรูปกลับมาครองสมณเพศอีกครั้ง หลังศาลตัดสินว่าไม่มีความผิด ซึ่งนั่นควรเป็นบรรทัดฐานที่ชี้ให้เห็นว่า เหตุใดเราไม่เอาเรื่องเหล่านี้มาพิจารณาจึงขอให้มีใจเป็นธรรม ขอให้ศึกษาคำพิพากษาซึ่งทั้งหมดเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องรอบคอบไม่เช่นนั้นจะเป็นการทำลายพระพุทธศาสนาเพียงเพราะความสะใจเท่านั้น