“นิยม” ชี้ รัฐบาลบริหารผิดพลาด ทำลายขีดความสามารถสาธารณสุขจนล้มเหลวในที่สุด

(23 เมษายน 2564) นายนิยม ช่างพินิจ ส.ส.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิดในรอบที่ 3 นี้ส่วนหนึ่งเกิดมาจากการบริหารสถานการณ์ที่ผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ความผิดพลาดของรัฐบาล ทำลายทั้งเศรษฐกิจ สังคม ความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ หนักที่สุดคือการทำลายขีดความสามารถของระบบสาธารณสุขไทยลงอย่างสิ้นเชิง ทั้งๆ ที่ความสามารถด้านสาธารณสุขของไทยเคยติดอันดับ 6 ของโลกว่ามีขีดความสามารถในการดูแลผู้ป่วยมากที่สุด วันนี้พลเอกประยุทธ์ ทำลายลงจนไร้ความสามารถแล้ว

ทั้งนี้มาจากพลเอกประยุทธ์ การไร้ความสามารถ ไม่มีประสิทธิภาพ ขาดความรู้ ขาดประสบการณ์ และไม่รับฟังคำแนะจากคนอื่น ทำให้การทำงานผิดพลาดไปหมด การระบาดของไวรัสโควิดหากพลเอกประยุทธ์ ลดอคติ ลดอัตตาลงบ้าง แล้วประเมินสถานการณ์ในอนาคต ประเทศไทย จะไม่เป็นแบบนี้ การจัดหาวัคซีนเพื่อบริการให้ประชาชนจะมีความพร้อมมากกว่านี้ แต่รัฐบาลหลงทาง จนส่งผลให้วัคซีนที่ได้มาเป็นวัคซีนที่หลายประเทศมองว่ายังไม่ปลอดภัยมีผลก่อให้เกิดอันตรายกับร่างกายผู้ป่วยแต่พลเอกประยุทธ์ ไม่มีทางเลือกอื่น เพราะไม่ได้มีการวางแผนไว้ล่วงหน้า

นายนิยม กล่าวด้วยว่า รัฐบาลออกพระราชกำหนดเงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาท เพิ่อฟื้นฟูประเทศ แต่ไม่ได้นำเงินที่กู้มาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ตอนนี้เงินที่กู้มาเหลือเพียง 3.8 แสนล้าน แล้วที่เหลือไปไหน ไปใช้ทำอะไรทำไมประชาชนไม่สามารถสัมผัสได้ว่าคุณภาพชีวิต หรือ เศรษฐกิจดีขึ้น จะบอกว่าเงินกู้นำมาแจกให้ประชาชนตามมาตรการเยียวยาของรัฐก็ไม่สามารถทำให้ชีวิตประชาชนดีขึ้น การแจกเงินแบบโปรยทานให้ประชาชนเป็นเพียงการหาเสียงของรัฐบาลเท่านั้น

“พลเอกประยุทธ์ล้มเหลวทุกเรื่อง รัฐบาลควรใช้งบประมาณให้ก่อประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด ในสถานการณ์ที่ต้องทุ่มงบประมาณด้านสาธารณสุข รัฐบาลควรนำงบประมาณในการจัดซื้ออาวุธ ซื้อเรือดำน้ำเพื่อไว้ให้เพื่อนบ้านเกรงใจ มาซื้อวัคซีนโควิดเพื่อฉีดให้ประชาชนจะได้ประโยชน์มากกว่า พลเอกประยุทธ์กำลังทำลายประเทศไทยมากกว่าสร้างสรรค์ หากยังขืนอยู่ในตำแหน่งต่อไป อีกไม่นานประเทศไทยจะเป็นรัฐล้มเหลวในที่สุด” นายนิยม กล่าว