“เพื่อไทย” ชี้ “ประยุทธ์” หมดสภาพ ไร้ภาวะผู้นำ พรรคร่วมรัฐบาลแตกกันแยก ประชาชนไทยลำบากแสนสาหัส

(26 เมษายน 2564) นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไืทย กล่าวว่า ภาวะประเทศไทยยามนี้ขาดผู้นำมืออาชีพช่วยกู้วิกฤติ จากกรณี ‘อาม่า’ วัย 84 ปี ป่วยเป็นโควิด-19 เสียชีวิตที่บ้าน มาถึง ‘อัพ VGB’ อายุ 35 ปี ป่วยเป็นโควิด-19 ที่กักตัวอยู่บ้านนานหลายวันกว่าจะได้รับการตรวจหาเชื้อ จนต้องเสียชีวิต สะท้อนความขาดวุฒิภาวะของผู้นำรัฐบาลอย่างรุนแรง
“รัฐบาลไม่เคยถอดบทเรียนการแพร่ของโควิดปีที่แล้ว จนปีนี้ทำให้คนไทยต้องเผชิญกับโรงพยาบาลเต็ม ไม่มีที่รักษา คนป่วย ต้องรอวันตายอยู่บ้าน ขาดความพร้อมหาห้องที่โรงพยาบาลไม่ได้ ล่าสุดมีคนย่านลาดพร้าวป่วยทั้งบ้านหาโรงพยาบาลไม่ทันพ่อเสียชีวิต สายด่วน 1669 มีไว้ก็ช่วยอะไรไม่ทัน เป็นความผิดพลาดอย่างรุนแรง ปีที่แล้วต้นเหตุมีการแพร่ระบาดจากสนามมวยลุมพินี และผับทองหล่อ รัฐบาลประกาศล็อกดาวน์ ปล่อยคนกลับบ้าน เชื้อโรคแพร่อย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับปีนี้เกิดเหตุคลัสเตอร์ทองหล่อแพร่เชื้อ กลับปล่อยให้คนเดินทางเข้าออกต่างจังหวัดอีกจนเชื้อโรคแพร่ทั้งประเทศ แต่พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ลงโทษนายศักดิ์สยาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม หลังมีข่าวพัวพันกับคลัสเตอร์ย่านทองหล่อที่มาใหญ่ของการแพร่ระบาดของโควิดระลอก 3 ที่ยังไม่ยอมเปิดเผยไทม์ไลน์ละเอียดถึงที่มาของการติดโควิด จนวันนี้นายศักดิ์สยามออกมาจากโรงพยาบาลแล้วเกิดประเด็นภาพหลุดคนหนัาตาคล้ายออกมาหลายภาพ แต่ ทุกอย่างก็ยังเงียบ ยังไม่มีการสอบสวนให้เป็นที่ประจักษ์กับประชาชน จนถูกมองว่าเป็นการอุ้มช่วยคนกันเองเพื่อต่อชีวิตรัฐบาล

“ส่วนเรื่องวัคซีน พอคุณ ‘โทนี่’ ใน clubhouse พูดว่า ไทยทำไมต้องจำกัดแค่ 2 ยี่ห้อ ขณะที่ประเทศอื่นมีหลายยี่ห้อ พูดปุ๊บวัคซีนไหลมาเลย ความจริงต้องมีวัคซีนทางเลือกให้กับประชาชนตั้งนานแล้ว จะอ้างว่าติดต่อไว้ก่อนแล้ว คำถามคือแล้วทำไมไม่ติดต่อแต่แรก ป่านนี้คนไทยเข้าถึงวัตซีนมากกว่านี้แถมเปิดประเทศได้นานแล้ว เศรษฐกิจประเทศคงไม่พัง พล.อ.ประยุทธ์จะมาอ้างว่าคนติดไวรัสน้อย เลยสั่งวัคซีนน้อยไม่ได้ เป็นความผิดพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย ฟังคุณโทนี่บ้าง ที่แนะนำว่าเมืองไทยต้องเลิกใช้กฎหมายนำ แต่ใช้ความรู้นำดีกว่า เพราะการใช้กฎหมายจะทำให้คนไม่ใส่ใจ ไม่กลัว เหมือนการประกาศพรก.ฉุกเฉินในวันนี้มีก็ไม่เกิดผลดีอะไร เป็นแค่เสือกระดาษ
“หันมาดูประชาชนบ้าง ตอนนี้ลำบากกันแสนสาหัส รายได้หด หนี้ท่วม หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นทะลุ 90% ของจีดีพี โควิดก็กลัว อดตายก็กลัว โดยที่พล.อ.ประยุทธ์ช่วยอะไรไม่ได้เลย คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย เสนอให้เยียวยา เดือนละ 5,000 บาท 3 เดือน และต้องเป็นเงินสดเพื่อสนองความจำเป็น ทั้งนี้เพราะเห็นว่าประชาชนลำบากกันมานานกว่า 1 ปีแล้ว และ รัฐบาลก็ไม่มีปัญญาสร้างรายได้ให้กับประชาชนได้เลย มีความเดือดร้อนเพิ่มขึ้นทุกวัน แต่รัฐบาลยังถ่วงเวลาการเยียวยาทั้งที่ต้องรีบทำ อย่าให้คนด่ากันทั้งบ้านทั้งเมืองก่อนถึงจะเร่งทำทีหลังเหมือนทุกครั้ง

    “และยิ่งเห็นกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) รายงานข้อมูลการฉีดวัคซีนในภูมิภาคอาเซียน  10 ประเทศ ไทยได้ทำการให้วัคซีนกับประชาชนเป็นลำดับที่ 8  
      โดยอันดับที่ 1 สิงคโปร์ จำนวน 2,213,888 โดส (19.5% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Moderna 
      อันดับสอง กัมพูชา จำนวน 1,775,364 โดส (5.2% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm 
     รองลงมาเป็น อินโดนีเซีย มาเลเซีย  พม่า ลาว ส่วนประเทศไทยมาอันดับแปด   ฉีดไปเพียง  864,840 โดส (0.7% ของประชากรทั้งหมด สรุปคือ ไทยเกือบรั้งท้าย  

“สรุปคือรัฐบาลเป๋ไปเป๋มา ออกอาการไปไม่เป็น  ขณะที่พรรคร่วมเริ่มเขย่ามีลางเความสัมพันธ์ร้าวหนัก มีปัญหากระทั่งการวางตัวรัฐมนตรีคุมจังหวัดต่างๆ มีการส่งชื่อ ร.อ.ธรรมนัส  วางเกมไปคุมพื้นที่ภาคใต้ ระส่ำจนพรรคประชาธิปัตย์ไม่พอใจรู้สึกเหมือนถูกตีท้ายครัว ประกอบกับกลุ่มหมอไม่ทนออกมาสร้างแคมเปญเรียกร้อง "นายอนุทิน ชาญวีรกูล" รมว.สาธารณสุขลาออกเนื่องจากล้มเหลวในการแก้ปัญหาการระบาดของโควิด-19 จนคนร่วมลงชื่อทะลุแสนห้าหมื่นรายชื่อ  

    “ผ่านมา 7 ปี พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้เป็นที่พึ่งของประชาชน  ลาออกเถอะ หรือควรไปทั้งคณะ เพื่อให้ประชาชนมีทางรอด  ท่านเป็นผู้นำแบบไหนบอกแต่เพียงให้ประชาชน"การ์ดไม่ตก"  ที่ผ่านมาการ์ดใครตก  ประชาชนไม่เคยการ์ดตก มีแต่กรรมตกเป็นของประชาชน ทำให้คนนึกถึงอักษรย่อบนป้ายผ้าในงานฟุตบอลประเพณีจุฬา-ธรรมศาสตร์เมื่อปีที่แล้ว ปรากฎชัด   พล.อ.ประยุทธ์บริหารประเทศตั้ง 7 ปี แต่เวลานี้กลับมีเสียงเรียกหา  “โทนี่”   ให้กลับมาแก้ปัญหาประเทศแทน ท่านคงต้องพิจารณาตัวเอง  ” นางสาวตรีชฎา กล่าวทิ้งท้าย