อนุสรณ์ ปฏิเสธข่าว เพื่อไทยร่วมรัฐบาลแทน ภูมิใจไทย เป็นไปไม่ได้ ชี้รัฐบาลอยู่ไม่ได้ต้องลาออก คืนอำนาจให้ ประชาชน

(26 เมษายน 2564) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีมีการเสนอข่าวว่ามีความพยายามหาพรรคสำรองไปร่วมรัฐบาลในปัจจุบัน และมีการเตรียมดึงพรรคเพื่อไทยเข้าร่วมแทนพรรคภูมิใจไทย (ภท.)พร้อมทั้งอ้างข่าวว่าพรรค พท.พร้อมเข้าร่วม โดยไม่มีข้อต่อรองและไม่มีเงื่อนไขในการเข้าร่วมใดๆ นั้น ตนขอปฏิเสธข่าว และยืนยันว่าข่าวดังกล่าว ไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด เป็นเฟคนิวส์เต้าข่าว เพื่อหวังผลทางการเมือง เบี่ยงเบนประเด็นปัญหาในวิกฤตเสถียรภาพของพรรคร่วมรัฐบาลที่ขัดแย้งแตกแยกกันอย่างหนัก สะท้อนความล้มเหลวในการบริหารงาน จนเกิดสภาพความแตกแยกและความไม่เป็นเอกภาพของรัฐบาลประยุทธ์ เป็นที่น่าสงสัยว่าแทบทุกครั้งที่มีกระแสข่าวความขัดแย้งระหองระแหงกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล จะมีการใช้หมากเกมการเมืองโบราณตื้นๆเคลื่อนไหวโดยใช้วิธีการเต้าข่าวเปิดประเด็นแบบนี้ตลอด พรรคเพื่อไทยเป็นสถาบันทางการเมืองในฝ่ายประชาธิปไตย ที่ได้รับความเชื่อมั่นและความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนคนไทยทั่วทั้งประเทศ จนมีจำนวนส.ส.มากที่สุดในสภา หากไม่เจอกลไกลับลวงพรางของรัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นมาเพื่อให้พรรคพลังประชารัฐเป็นรัฐบาล พรรคเพื่อไทยต้องได้เป็นรัฐบาล น่าเสียดายว่าคนไทยต้องเจอทั้งวิกฤตโควิด-19 วิกฤตเศรษฐกิจ สังคมการเมือง ที่รัฐบาลประยุทธ์ไม่สามารถแก้ไขปัญหาอะไรได้เลย หากพรรคเพื่อไทยมีโอกาสได้ทำหน้าที่เป็นรัฐบาล จะสามารถแก้ไขปัญหาวิกฤตของประเทศชาติได้ดีกว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นใดๆที่สถาบันทางการเมืองอันดับหนึ่งของประเทศอย่างพรรคเพื่อไทย จะไปเป็นพรรคอะไหล่สำรอง เสียบแทนพรรคการเมืองอื่นในซีกพรรคร่วมรัฐบาล รัฐบาลประยุทธ์ กำลังเข้าตาจน โควิดระบาดระลอกแรก หน้ากากอนามัยล่องหน ปล่อยให้โควิดระบาดจนถึงระลอกที่ 3 เกิดวิกฤตวัคซีนขาดแคลนไม่เพียงพอ ไม่หลากหลาย ไม่ครอบคลุม ปัญหาการกระจายวัคซีนไม่เหมาะสม ไม่เท่าเทียม ไม่ทั่วถึง ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะรัฐบาลทำตัวเอง ที่ไม่มีเอกภาพ ไร้เสถียรภาพ ไร้ประสิทธิภาพ ล้มเหลวในการทำงานระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเอง

“สิ่งที่รัฐบาลประยุทธ์ควรทำมากว่าการหาพรรคสำรอง คือ ลาออก หรือยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชน เพราะเมื่อคนไทยได้รับการฉีดวัคซีนมากขึ้น ถนนทุกสายจะไหลรวมไปสู่การออกมาขับไล่รัฐบาลประยุทธ์ ถึงวันนั้นรัฐบาลต้องออกไปอยู่ดี เพราะอยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว” นายอนุสรณ์ กล่าว