“ชวลิต” ชี้ “โครงสร้างรัฐรวมศูนย์” อำนาจกระจุกอยู่ที่ปลัดกระทรวงและฝ่ายความมั่นคง จึงแก้ไขปัญหาโควิดไม่ทันสถานการณ์
(28 เมษายน 2564) นายชวลิต วิชยสุทธิ์ สส. นครพนม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าเห็นได้จากประกาศกำหนดอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีเป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี(ฉบับที่ 3) จำนวน 31 ฉบับ และก่อนหน้านั้นมีคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 56/2564 แต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาจัดหาวัคซีน ซึ่งไม่มีชื่อ รมว.สธ.เป็นคณะทำงานแต่อย่างใด ทั้งนี้ ทั้งสองประเด็นดังกล่าวเป็นการดำเนินการก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะประชุมกับภาคเอกชนในวันนี้ (28 เมย.64) แต่เนื่องจากรัฐบาลอยู่ได้ด้วยพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล จากนี้ไป เป็นสัญญาณนับวันถอยหลังได้ หากฝ่ายการเมืองถูกหักหน้าจนช้ำไปเรื่อย ๆ ก็คงถึงวันสิ้นสุดความอดทนซึ่งกันและกัน เตรียมยุบสภาภายใต้กติกาเก่าที่ฝ่ายกุมอำนาจรัฐได้เปรียบ แม้ประเทศชาติไม่ได้รับความเชื่อมั่นจากกติกาที่ไม่เป็นธรรม ก็ไม่สนใจ ขอให้ตนและพวกพ้องได้อำนาจ คนที่ช้ำที่สุด คือ ประชาชน เพราะประเทศอยู่ภายใต้โครงสร้างที่ไม่ได้รับความเชื่อมั่น ซึ่ง 7 ปีที่ผ่านมาเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า ประเทศมีแต่ความเสื่อมทรุด หนี้สินล้นพ้นตัวทั้งประเทศชาติและประชาชน อย่าให้ถึงสถานการณ์เช่นนั้นเลย บ้านเมืองยังมีทางออกที่ดีกว่านี้ ผมเคยให้ความเห็นไว้หลายครั้งว่า ทางออกในทางการเมืองที่ดีที่สุด คือ รัฐบาลลาออก ส่วนการยุบสภา ไม่มีเหตุผลว่ารัฐบาลกับฝ่ายนิติบัญญัติขัดแย้งในประเด็นสำคัญของบ้านเมืองอย่างไร
อย่างไรก็ตาม ณ ปัจจุบัน ทุกภาคส่วนควรทำงานควบคู่กันไป ทั้งแก้ปัญหาไวรัสโควิด และทำกติกาบ้านเมืองให้เป็นธรรม ดังนี้
- จัดหาวัคซีนอย่างหลากหลาย รวดเร็ว เป็นรูปธรรม มีไทม์ไลน์ชัดเจน ให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น
- ตรวจหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกให้มากที่สุด เมื่อพบ ให้จำกัดขอบเขต แล้วรักษาให้หายโดยเร็ว
3.ให้บำเหน็จรางวัล ความดี ความชอบ ค่าตอบแทน ตลอดจนให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ พยาบาล ที่เหน็ดเหนื่อย เสี่ยงชีวิต เยี่ยงทหารที่อยู่ในสนามรบ ทั้งนี้ ให้เกลี่ยงบประมาณจากฝ่ายความมั่นคงที่ไม่จำเป็น เร่งด่วน มาดูแลทั้งวัคซีน ยา วัสดุครุภัณฑ์ และสวัสดิการต่าง ๆ อย่างเหมาะสมพอเพียง
- ทำกติกาบ้านเมือง คือ รัฐธรรมนูญ ให้มีความเป็นธรรม เพื่อร่วมกันสร้างความเชื่อมั่นประเทศ ทั้งแก้ปัญหาโควิด และ รัฐธรรมนูญ ต้องดำเนินการควบคู่กันไป จึงจะเป็นทางออกของบ้านเมืองอย่างยั่งยืน
ขอให้กำลังใจทุกภาคส่วน โปรดตั้งสติ ระลึกถึงประโยชน์ส่วนรวม คือ ประเทศชาติและประชาชน ไม่มีอะไรที่แก้ไขไม่ได้ ถ้าละประโยชน์ส่วนตน ทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม คือ ประเทศชาติและประชาชน