คณะกรรมาธิการศาสนาฯ สภาผู้แทนราษฎร สรุป การสละสมณะเพศตามกฎหมาย มิได้มีความหมายถึงการลาสิกขา (สึก)ในแง่พระธรรมวินัย จึงขอให้สำนักพระพุทธศาสนาโปรดนำไปพิจารณา

(29 เมษายน 2564) ดร.นิยม เวชกามา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.สกลนคร พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงจากที่ตนทราบมาว่า คณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาฯ ได้สรุปในการพิจารณาประเด็นการร้องเรียนจากเปรียญธรรมสมาคมแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ฯ และองค์กรพุทธหลายองค์กร ในประเด็นพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 ในมาตรา 29,30 กล่าวถึงการสละสมณะเพศมิได้มีความหมายถึงการลาสิกขา (สึก) ในแง่ของพระธรรมวินัยและหลักกฎหมาย

โดยนำกราบบังคมทูลต่อ ประธานกรรมการมหาเถรสมาคม นั้นตนเห็นว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องเพราะอำนาจและหน้าที่การจัดทำและออกกฎหมายเป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ โดยฝ่ายนิติบัญญัตินั้น ถือเป็น 1 ใน 3 ของอำนาจอันประกอบด้วย 1.) อำนาจนิติบัญญัติ 2.) อำนาจบริหาร และ3.) อำนาจตุลาการ

ซึ่งผู้มีอำนาจสูงสุดในการบัญญัติกฎหมายได้ชี้ให้เห็นถึงความถูกต้องแล้ว ตนจึงขอให้ผู้ใช้กฎหมาย โดยเฉพาะสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และมหาเถรสมาคม นำเอาประเด็นนี้ไปพิจารณา เพราะทุกวันนี้พุทธศาสนาอันเป็น 1 ใน 3 ของสถาบันหลักของชาติกำลังถูกสั่นคลอน จากภัยภายในและภายนอก

ตนจึงขอให้พิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อถูกต้องและความสุขของปวงชนชาวไทยที่มีพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่มีผู้นับถือมากที่สุด อันจะนำไปสู่บรรทัดฐานที่ดีงาม ที่บอกต่อกันรุ่นต่อรุ่นจากการทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์สุจริตของผู้บังคับใช้กฎหมาย และจะนำไปสู่บรรทัดฐานในเวทีสงฆ์โลกที่ปัจจุบันนี้ เมืองไทยยังได้รับการยอมรับเป็นศูนย์กลางพุทธโลกอยู่