(30 เมษายน 2564) นายวิสาร เตะชะธีราวัตน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า การที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รวบอำนาจในการบริหารสถานการณ์โควิด-19 โดยอ้างว่าเพื่อการบริหารจัดการที่เบ็ดเสร็จเด็ดขาด ทั้งๆที่ในความเป็นจริง พลเอกประยุทธ์มีอำนาจเต็มมานานแล้ว ตั้งแต่การจัดการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค.รวมทั้งมีการออกพระราชกำหนดบริหารสถานการณ์ในสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ที่ผ่านมาล้มเหลวทั้งระบบ ไม่สามารถระงับยับยั้งการระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ ที่เป็นเช่นนี้เพราะพลเอกประยุทธ์บริหารสถานการณ์ผิดพลาดมาโดยตลอด รวมทั้งไม่เคยรับฟังคำแนะนำจากทุกฝ่าย กรณีการระบาดของไวรัสที่ลุกลามไปทั่วประเทศ เพราะพลเอกประยุทธ์ไม่ล็อกดาวน์พื้นที่เพื่อควบคุมการระบาด ขณะที่ยังคุมได้ กลับปล่อยให้มีการเคลื่อนย้ายของประชาชน จนยากเกินการควบคุม

นายวิสาร กล่าวด้วยว่า พลเอกประยุทธ์ออกมาขู่รัฐมนตรีร่วมรัฐบาลว่า จะยึดโควต้าตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะได้ยินมาว่ารัฐมนตรีนินทาตัวเอง การกระทำดังกล่าวเป็นการขู่เพื่อปกป้องตัวเอง น่าประหลาดใจที่พลเอกประยุทธ์ได้ยินเสียงนินทาแต่ไม่ได้ยินเสียงประชาชนที่ส่งเสียงถึงรัฐบาลมานานแล้วว่า ใช้ชีวิตลำบาก ไม่มีเงิน ไม่มีงาน เจ็บป่วยไม่มีเตียงรักษา หลายคนเสียชีวิตจากเข้าไม่ถึงการบริหารทางการแพทย์ ทั้งๆที่รัฐบาลที่ดีต้องพร้อมที่จะรับฟังเสียงประชาชน ต่างจากรัฐบาลนี้ที่ไม่เคยได้ยินเสียงความเดือดร้อนของประชาชน

“กรณีการออกมาขู่ของพลเอกประยุทธ์ ชัดเจนว่าตัวตนที่แท้จริงของพลเอกประยุทธ์ ให้ความสำคัญกับอะไรมากกว่ากัน เพราะที่มาของพลเอกประยุทธ์ มาจากการรัฐประหารและยึดอำนาจคนอื่นมา รวมทั้งเสียงของสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว.ที่ เป็นเหมือนนั่งร้านที่ค้ำยันอำนาจของ พลเอกประยุทธ์ น ดังนั้นจึงไม่จำต้องสนใจเสียงของประชาชน ตลอด 7 ปีที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์ผิดพลาดมาโดยตลอด จากความล้มเหลวการแก้ปัญหาโควิด-19และแก้เศรษฐกิจแบบตาบอดคลำช้าง หากพลเอกประยุทธ์ รักประเทศจริงตามที่พูด ก็ควรลาออกหรือยุบสภาก็ได้ เพราะขืนอยู่ต่อ ก็จะสร้างปัญหาให้ประเทศเพิ่มมากขึ้น ควรออกไปได้แล้วเพื่อให้คนที่เก่งกว่ามาทำหน้าที่ อย่าอยู่สร้างภาระให้ประชาชนต่อไปเลย” นายวิสารกล่าว