(7 พฤษภาคม 2564) นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ ในฐานะรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การแก้ปัญหาโควิด-19 ของรัฐเดินหลงทางมาโดยตลอด เพราะในวิกฤติโควิดยังมีโอกาสกระตุ้นเศรษฐกิจได้ โดยการปรับใช้ฮอสพิเทล เป็นสถานที่รองรับกลุ่มเสี่ยง ที่ยังไม่ติดเชื้อ แทนโรงพยาบาลสนาม รวมทั้งสร้างมาตรฐานในการดูแลผู้ป่วย และลดความเหลื่อมล้ำในสังคมได้ นอกจากนี้ จะช่วยให้เกิดการจ้างงาน และการซื้อขายสินค้าเพื่อนำมาทำอาหารดูแลผู้กักตัว เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ด้วย หากรัฐบาลไม่มีแนวทางที่ชัดเจนเหมือนการจูงคนตาบอดไปบนหน้าผาสูงชัน ไม่รู้ทิศทางที่จะเดินไป จะตกเหวเมื่อไหร่ก็ไม่รู้

รัฐบาลต้องบูรณาการการทำงานร่วมกัน ระหว่าง กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อบริหารจัดการและสร้างความเชื่อมั่น ทั้งนี้โรงแรมไหนที่ถูกใช้เป็นฮอสพิเทล กระทรวงสาธารณสุขต้องมาจัดระเบียบ ในเรื่องของสุขลักษณะ หลังจากเสร็จสิ้นภาระกิจก็ดำเนินการฆ่าเชื้อภายในโรงแรม นอกจากนั้นกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ต้องมอบใบประกาศนียบัตรให้กับโรงแรมที่ยอมเสียสละและการันตรีว่าเป็นโรงแรมที่ผ่านการฆ่าเชื้อเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวหลังเปิดดำเนินการใหม่

นายจักรพล กล่าวด้วยว่า การจัดหาวัคซีนที่ล่าช้า ทำลายโอกาสไทยทุกด้าน ด้านการท่องเที่ยว ลงทุน เพราะนักลวงทุนหนีไปลงทุนประเทศอื่นๆในอาเซียน ประเทศไทยสูญเสียไปรายได้มูลค่ามหาศาลจากการลงทุน และคงใช้เวลาอีกหลายปีกว่านักลงทุนจะกลับมาอีกครั้ง ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศที่นักลงทุนให้ความสำคัญอีกต่อไป เมื่อพลเอกประยุทธ์เลือกที่จะกอดอำนาจและสืบทอดอำนาจ มากกว่าจะเสียสละให้ตัวเอง พลเอกประยุทธ์ก็ควรจะพัฒนาตัวเองได้หรือไม่ เมื่อหวงอำนาจก็ต้องตั้งใจทำหน้าที่ ผลการทำงานที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์สอบตกทุกวิชา ขอเตือนว่าพลเอกประยุทธ์อย่าคิดแต่อำนาจ สุดท้ายจะพาประเทศและประชาชนตกเหวเศรษฐกิจจนไม่มีทางฟื้น