ผู้ป่วยติดเตียงพิการซ้ำซ้อนร้องขอเพิ่ม “เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ” 1,500 บาทชั่วคราวแค่ 6 เดือน ลดภาระลูกหลานที่ตกงานขาดรายได้ช่วงโควิด-19 ระบาด
(15 พฤษภาคม 2564) นางสาวทิพจุฑา บุนนาค ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่เขตบางพลัด เยี่ยมผู้ป่วยติดเตียงรวม 7 รายหลังได้รับการร้องเรียนว่าผู้ป่วยติดเตียงใช้ชีวิตยากลำบากในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 มากกว่านั้นบางรายมีปัญหาพิการซ้ำซ้อน โดยนางสาวทิพจุฑา ได้เดินทางไปยังแขวงบางบำหรุ เพื่อเยี่ยมผู้ป่วยติดเตียง 7 ราย พบว่าผู้ป่วยติดเตียงส่วนมากมีอายุตั้งแต่ 60 ปี ถึง 90 ปี เป็นผู้ป่วยติดเตียงมานานตั้งแต่ 10-20 ปี ผู้ป่วยทั้งหมดมีปัญหาทั้งทางด้านสุขภาพและปัญหาเศรษฐกิจ มีรายได้ไม่พอเลี้ยงชีพ ปัญหาสุขภาพ เช่น บางรายมีความพิการทางสายตา ตามองไม่เห็นทั้งสองข้าง รายหนึ่งพิการกระดูกสันหลังขาด ทั้งหมดมีปัญหาโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคเจ็บป่วยอื่นๆจนไม่สามารถลุกขึ้นจากเตียง
นางสาวทิพจุฑา กล่าวต่อว่า นอกจากปัญหาสุขภาพแล้ว ผู้ป่วยทุกคนยังมีปัญหาเศรษฐกิจคือ ทั้งหมดเป็นผู้ที่มีฐานะยากจน ไม่มีเงินเก็บ รายที่มีลูกหลานก็พบว่าลูกหลานผู้ชายมีภาระต้องเลี้ยงดูลูกเมียและดูแลคุณแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง หมายถึงทำงานหนึ่งคนแต่ต้องเลี้ยงดู 3-4 ชีวิต ซึ่งเป็นภาระที่หนักมาในช่วงระบาดโควิดเพราะรายได้ลดลง บางรายไม่มีลูกหลานดูแลป่วยติดเตียงก็อาศัยเพื่อนบ้าน และอาสาสมัคร อสม. เขามาช่วยเอาอาหารมาให้ มาช่วยอาบน้ำทำความสะอาด คนป่วยติดเตียงหรือคนชราทุกคนมีภาระค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ากินอยู่แต่มีรายได้จากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแค่ประมาณ 600 – 1000 บาทแล้วแต่ช่วงอายุ นอกจากนี้ยังมีปัญหาผู้ป่วยติดเตียงถูกทอดทิ้ง ซึ่งจากที่ไปเยี่ยม 7 รายพบว่ามีถึง 2 รายที่ต้องอยู่คนเดียว
“ช่วงโควิดขณะนี้ ผู้ป่วยติดเตียง ลำบากมากขึ้น เพราะปกติก็อาศัยลูกหลานดูแล พอมีโควิด ลูกหลานตกงานมาหลายเดือน ยิ่งทำให้อยู่กินลำบาก ผู้ป่วยติดเตียงจึงขอร้องอยากให้รัฐบาลเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจากปกติ 600-1000 บาทตามช่วงอายุ เพิ่มขึ้นเป็น 1500 บาท เป็นการชั่วคราวแค่ 6 เดือนในช่วงที่โควิดระบาด เพื่อให้เขาไม่เป็นภาระของลูกหลานมากไป” นางสาวทิพจุฑา กล่าว