“ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน” เรียกร้องฉีดวัคซีนกันโควิด-19 ให้ “ครู-ครูพี่เลี้ยง-เด็กนักเรียน” ทั้งหมดก่อนเปิดเทอม ป้องกันคลัสเตอร์กลุ่มเด็กนักเรียน
(21 พฤษภาคม 2564) นางสาวปิยะวรรณ จระกา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. เขตสวนหลวง กล่าวว่าจากการลงพื้นที่แลกเปลี่ยนความเห็นกับศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครหลายแห่งในเขตสวนหลวง พบว่าศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนได้ตระเตรียมความพร้อม ในการต้อนรับเปิดเทอมในปีการศึกษา 2564 ทั้งการทำความสะอาดอาคาร ห้องเรียน จัดซ่อมแซมสนามเด็กเล่น ตลอดจนเตรียมสื่อการเรียนการสอนในหลากหลายวิชา ยกตัวอย่างเช่นศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนชุมชนแหลมทองพัฒนา เขตสวนหลวง ตั้งอยู่ในชุมชนที่มีจุดก่อสร้างตึกและอาคารสูงหลายแห่ง ที่มีทั้งเด็กไทยในชุมชน และเด็กที่มีบิดามารดา เป็นแรงงานต่างด้าวทำงานในแคมป์ก่อสร้าง ซึ่งครูยาที่ดูแลศูนย์ดังกล่าวบอกว่าได้เตรียมแผนการป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเข้มข้น โดยมีจุดคัดกรอง ตรวจวัดอุณหภูมิ ลงทะเบียนผู้ปกครองที่มารับส่ง ตลอดจนลดจำนวนความแออัดของเด็กนักเรียนด้วยการสลับวันเรียน เพื่อให้ครู 1 คน ดูแลเด็กไม่เกิน 5 คน นอกจากนี้ก็จัดการเว้นระยะห่าง และแยกการใช้จานข้าวของเด็กแต่ละคนออกจากกัน ซึ่งมาตรการเข้มข้นดังกล่าวแม้จะเป็นภาระเพิ่มขึ้นของครูและพี่เลี้ยงแต่ก็มีความเต็มใจที่จะทำเพื่อให้มั่นใจว่าปลอดภัยกับเด็กมากที่สุด แต่สิ่งที่ครูยา กังวลใจในการเปิดเทอมที่จะมาถึงคือ จนถึงขณะนี้ ครู ครูพี่เลี้ยง เจ้าหน้าที่ และเด็กนักเรียนของศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนหลายแห่ง ยังไม่มีโอกาสได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ซึ่งแม้ภาครัฐจะแจ้งว่าให้ครูไปฉีดวัคซีนก่อนเข้าสอนก็ตาม แต่ก็ยังไม่มีรายละเอียดว่า กรณีครูพี่เลี้ยง เจ้าหน้าที่ และเด็กนักเรียนจะได้ฉีดวัคซีนด้วยหรือไม่ เพราะถ้าฉีดวัคซีนให้แค่ครู แต่ครูพี่เลี้ยง เจ้าหน้าที่ ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือคนในชุมชน และเด็กที่นี่ ก็เป็นเด็กในชุมชนที่เป็นทั้งคนไทยและลูกแรงงานต่างชาติที่กำลังมีเคสระบาดอย่างรุนแรง ซึ่งข้อนี้เป็นข้อกังวลของผู้ดูแลศูนย์พัฒนาเด็กแห่งนี้
นางสาวปิยะวรรณ กล่าวว่า ศูนย์พัฒนาเด็กอ่อนหลายๆ แห่งในเขตสวนหลวงสะท้อนความเห็นไปในทางเดียวกันว่า ถ้าจะต้องเปิดเทอมในเดือนมิถุนายนนี้ ก็อยากเรียกร้องให้ภาครัฐฉีดวัคซีนป้องกันโควิดให้ครู ครูพี่เลี้ยง เจ้าหน้าที่และเด็กนักเรียนทั้งหมดให้ครบถ้วนก่อนเปิดเทมอได้หรือไม่ แม้วัตถุประสงค์ที่ฉีดวัคซีนให้ครูเพื่อป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อไปที่เด็ก แต่ถ้าเด็กได้รับเชื้อจากพ่อแม่ จากชุมชน หรือจากคลัสเตอร์แรงงานต่างด้าวที่พักอาศัยอยู่ใกล้ศูนย์พัฒนาเด็ก ก็จะเกิดการแพร่เชื้อจากเด็กมาสู่ครู การฉีดวัคซีนแค่ครูก็จะไม่มีประโยชน์ และถ้าเกิดคลัสเตอร์เด็กในศูนย์หรือโรงเรียนก็จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่น่าเป็นห่วง