“ภาควัต”จี้“บิ๊กตู่”ใช้เงินกู้ต้องโปร่งใสตรวจสอบได้ แนะเลิกปกป้องผลประโยชน์ตัวเองจี้ตัดงบซื้ออาวุธช่วงวิกฤตไวรัสระบาด
(25 พฤษภาคม 2564) นายภาควัต ศรีสุรพล ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การจัดทำร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 จำนวน 3.1 ล้านล้านบาท ของรัฐบาล เป็นการจัดงบประมาณที่ไม่มองถึงความต้องการของประชาชน ซึ่งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องคิดถึงประชาชนมากกว่าผลประโยชน์ของตัวเอง เพราะเวลานี้สิ่งสำคัญที่สุดคือการสร้างความมั่นคงทางสาธารณสุข แต่รัฐบาลกลับมองเพียงแค่การซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ เพื่อสนองความต้องการของตัวเองและเป็นการใช้ภาษีของประชาชน ที่ไม่สามารถตรวจสอบได้
รัฐบาลต้องกล้าตัดงบประมาณการจัดซื้ออาวุธออกไปทั้งหมด ในภาวะวิกฤตเช่นนี้ ไม่มีผู้นำประเทศไหนใช้เงินซื้ออาวุธมากกว่าเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ เพราะการดูแลพี่น้องประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นรัฐบาลต้องเร่งจัดหาวัคซีนเพื่อบริการให้ประชาชนได้ฉีดป้องกันไวรัสโควิด เพราะวัคซีนถือเป็นอาวุธสำคัญที่สุดสำหรับคนไทยทุกคนในสถานการณ์การระบาดของไวรัสในเวลานี้
นายภาควัต กล่าวด้วยว่า การที่รัฐบาลออกพระราชกำหนดหรือ พ.ร.ก.กู้เงินรอบใหม่ วงเงินไม่เกิน 7 แสนล้านบาท ควรมีรายละเอียดการใช้เงินกู้มากกว่านี้ รัฐบาลต้องสำนึกว่าเงินที่กู้มาเป็นภาษีของประชาชน ไม่ใช่เงินของพลเอกประยุทธ์ ดังนั้นการใช้เงินกู้ต้องโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ พลเอกประยุทธ์ ไม่ควรใช้อำนาจเพื่อปกป้องผลประโยชน์ตัวเอง ควรพอได้แล้วประเทศไทยเสียหายมามาก พลเอกประยุทธ์จะต้องเสียสละตนเองเพราะการอยู่ในตำแหน่งของพลเอกประยุทธ์ ไม่เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ แต่อย่างใด