“เพื่อไทย” ชี้รัฐตั้งงบ 65 ไม่แคร์ประชาชน ซัดยิ่งอยู่ยิ่งแย่ประเทศเสียหาย 3 ล้านล้าน แนะพรรคร่วมฯ เลิกเป็นนั่งร้านมายืนข้างประชาชน
(26 พฤษภาคม 2564) นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการจัดทำงบประมาณประจำปี 2565 ว่า เป็นการจัดทำงบประมาณที่ละทิ้งประชาชน ไม่สนใจสถานการณ์ปัจจุบันโดยสิ้นเชิง สังเกตได้จาก “งบกลาง” ที่ตั้งไว้สูงถึง 5.7 แสนล้านบาท แม้จะปรับลงจากปี 64 เล็กน้อย แต่ยังถือว่าเป็นงบที่มากเป็นอันดับ 1 ของงบประมาณทั้งหมดติดต่อกันเป็นปีที่ 3 นับตั้งแต่พลเอกประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี อีกทั้งยังตัดงบ “สำรองฉุกเฉินค่าใช้จ่ายในการบรรเทาหรือแก้ปัญหาจากการระบาดของโควิด-19” ภายในงบกลางออกทั้งหมด ทั้งที่สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ยังอยู่ในขั้นวิกฤต และในปีงบประมาณ 2563 – 2564 ก็เคยกันงบส่วนดังกล่าวสำรองไว้หลายหมื่นล้านบาท
นอกจากนี้เมื่อมาดูภาพรวมของงบกลางในปีงบประมาณ 2565 ค่าใช้จ่ายที่ใช้กับส่วนราชการมีสัดส่วนสูงกว่าทุกปี คิดเป็นเกือบ 85% เหลืองบไว้ใช้กับประชาชนในยามฉุกเฉินน้อยมาก แตกต่างจากรัฐบาลชุดก่อนหน้าที่มีการใช้งบกลางเพื่อประชาชนหรือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจเป็นส่วนใหญ่ ทั้งหมดที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงการบริหารงานที่ไร้ประสิทธิภาพและไม่สนใจประชาชน ดังเป็นที่ประจักษ์มายาวนานตลอด 7 ปี สอดคล้องกับข้อมูลของ ดร.กิตติ ลิ่มสกุล นักวิชาการเศรษฐมิติระดับโลก ที่ได้ประเมินความเสียหายทางเศรษฐกิจจากการทำรัฐประหารรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปี 2562 ไว้ คิดเป็นมูลค่าถึง 3.19 ล้านล้านบาท โดยยังไม่รวมความเสียหายที่เกิดจากความบกพร่องของรัฐบาลในการควบคุมการระบาดของโควิด-19 อีกด้วย
“การจัดทำงบประมาณปี 65 ของพลเอกประยุทธ์ แสดงออกว่าไม่แคร์ประชาชนอย่างชัดเจน หากปล่อยให้บริหารต่อมีแต่จะสร้างความเสียหายให้ประเทศ พรรคเพื่อไทยขอให้ทุกคนร่วมจับตาการอภิปรายงบประมาณรอบนี้ และขอเรียกร้องให้พรรคร่วมรัฐบาลเลิกเป็นนั่งร้านให้นายกรัฐมนตรีที่ไร้ประสิทธิภาพ ขาดวิสัยทัศน์แล้วกลับตัวกลับใจมาอยู่ข้างประชาชน” นายชนินทร์กล่าว