“ชวลิต” เผย ชาวบ้านขวัญเสีย “โค-กระบือ” ตายจากไวรัสโรค Lumpy skin ขอวัคซีนด่วน

(26 พฤษภาคม 2564) นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ให้ความเห็นต่อมาตรการของรัฐบาลในการป้องกันโรค Lumpy skin ที่กำลังระบาดในโค กระบือ อยู่หลายจังหวัด รวมทั้งจังหวัดนครพนม ซึ่งได้ประกาศเป็นเขตโรคระบาดสัตว์ ห้ามเคลื่อนย้ายโค กระบือ ไปแล้ว นั้น ความจริงโรค Lumpy skin ซึ่งเป็นไวรัสชนิดหนึ่งได้ระบาดที่จังหวัดอื่นมากว่า 2 เดือนแล้ว ก่อนจะเข้ามายังจังหวัดนครพนม แต่มาตรการในการป้องกันการระบาดของรัฐบาลล่าช้า ไม่ทันการณ์ จนเกิดความเสียหายทางด้านเศรษฐกิจฐานรากอย่างมาก ที่สำคัญ วัคซีนในการฉีดให้โคกระบือ เพื่อป้องกันโรค Lumpy skin นั้น กรมปศุสัตว์ได้รับงบประมาณน้อยนิดมาก เพียง 60,000 โดส เทียบไม่ได้เลยกับจำนวนโค กระบือ ที่มีอยู่หลายล้านตัว เป็นที่ทราบกันดีว่า โค กระบือ เป็นสัตว์เศรษฐกิจของเกษตรกร เป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายที่เปรียบเสมือนเงินออมของเกษตรกร หากวัวตาย 1 ตัว เกษตรกรจะสูญเงินหลายหมื่นบาท ยิ่งถ้าเป็นวัวพันธุ์ราคาตัวละเป็นแสนบาท เกษตรกรหลายรายจึงกล่าวกันว่า ขณะนี้กลัววัวตายมากกว่ากลัวโควิดเสียอีก ที่สำคัญกว่านั้น การเกิดโรคระบาดในโค กระบือ ส่งผลกระทบไปยังตลาดโค กระบือ อย่างยิ่ง เมื่อตลาดโค กระบือนิ่งเศรษฐกิจในชนบทก็ไม่หมุนเวียน จึงกระทบเศรษฐกิจฐานราก ทั้งเกษตรกรผู้เลี้ยงและพ่อค้า แม่ค้า ฯลฯ กระทบเป็นลูกโซ่ไปหมด


ในฐานะตัวแทนของพี่น้องประชาชน ขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลให้มีมาตรการในการป้องกันโรคระบาดในโค กระบือและช่วยเหลือเกษตรกร ดังนี้
1. จัดสรรงบประมาณให้กรมปศุสัตว์จัดหาวัคซีนโดยเร่งด่วนในปริมาณที่จะป้องกันโรคระบาดในโค กระบือได้อย่างพอเพียง และทันการณ์
2. เยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโค กระบือ ตายด้วยโรค Lumpy skin ให้ทันกับความเดือดร้อนของเกษตรกร
3. จัดหายา เวชภัณฑ์ โดยเฉพาะยาปฏิชีวนะ ยากำจัดเห็บ แมลงดูดเลือดที่เป็นพาหะของโรค Lumpy skin ให้แก่ปศุสัตว์อำเภอให้เพียงพอ


ขอให้รัฐบาล โดยเฉพาะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทำงานแข่งกับเวลาในการป้องกันโรค Lumpy skin และเยียวยาเกษตรกรอย่างทันการณ์ในเวลาจากนี้ไป โดยหยุดยั้งให้ได้ อย่าให้ระบาดไปมากกว่านี้ เพราะเกษตรกรได้รับความบอบช้ำจากปัญหาไวรัส โควิดระบาดหนักหนาสาหัสอยู่แล้ว หากได้รับผลกระทบจากโรคระบาดในโค กระบือ ซ้ำเติมอีก ประชาชนคงจะรับภาระไม่ไหวอีกต่อไป