ส.ส.สกลนคร เพื่อไทย จวกรัฐไม่เร่งคุม”ลัมปีสกิน”ระบาด ทำโคขุนสกลนครเสียหายหนัก ชี้อนาถใจประเทศไทยขาดทั้งวัคซีนคน วัคซีนวัวควาย
(28 พฤษภาคม 2564) นายพัฒนา สัพโส ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เกษตรกรในจังหวัดสกลนคร ซึ่งเป็นพื้นที่เลี้ยงโคขุนโพนยางคำ ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมากจากการระบาดของโรคลัมปีสกินซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ต้นปี จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานเข้ามาให้ความช่วยเหลือ โดยเฉพาะกรมปศุสัตว์ที่ไม่มีความชัดเจนในมาตรการควบคุมการระบาด ไม่เร่งรัดจัดหาวัคซีนเข้ามาป้องกันการติดเชื้อ และยังไม่มีการจัดหายาในการควบคุมการลุกลามของโรคในเบื้องต้น ซึ่งเป็นยาฉีด ราคาเข็มละ 300 บาท โดยโค 1 ตัวต้องฉีด 3 เข็มจึงจะระงับการลุกลามของแผลพุพองได้ เกษตรกรรายย่อยซึ่งรายได้ไม่พอรายจ่าย ไม่มีเงินเพียงพอที่จะซื้อยารักษาโรค จำใจปล่อยให้โคล้มตาย สร้างความเสียหายให้กับเกษตรกรเป็นอย่างมาก โดยราคาโคขุนมีราคาขายสูงถึงตัวละ 80,000 – 100,000 บาท โคต้นน้ำ ตัวละ 50,000-60,000 บาท
นายพัฒนา ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้โค กระบือ ในจังหวัดสกลนคร มีหลายหมื่นตัวมีสภาพไม่ต่างกัน คือขาดแคลนวัคซีนในการป้องกันโรคระบาด ส่วนเกษตรกรก็ไม่สามารถเข้าถึงวัคซีนรักษาโรคโควิด-19 ได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึงเพียงพอ จึงอยากให้รัฐบาลโดยกรมปศุสัตว์มองเห็นถึงความสำคัญของเกษตรกรด้วย เพราะสถานะของกรมปศุสัตว์ตอนนี้ไม่ต่างจาก ศบค.ที่มีหน้าที่บริหารจัดการวัคซีนเพื่อควบคุมไม่ให้โรคระบาดขยายวงกว้างและสร้างความเสียหายให้กับประเทศมากกว่านี้
“อนาถใจมากประเทศไทยขาดทั้งวัคซีนคนและวัคซีนวัว ควาย รัฐต้องเร่งหาวัคซีนให้เร็วกว่านี้ ก่อนที่กรมปศุสัตว์จะต้องรายงานยอดโค กระบือ และสุกรป่วยและตายรายวันเหมือนโควิด-19 ” นายพัฒนา กล่าว.