“เพื่อไทย” สนับสนุนให้วัคซีนทุกยี่ห้อที่องค์การอนามัยโลกและ อย.รับรองแล้ว เป็น“วัคซีนหลัก” ฟรีให้ประชาชนโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวที่รัฐสภาถึงการจัดหาวัคซีนของภาครัฐ โดยกล่าวว่าขณะนี้ประชาชนมีความสับสนต่อระบบการบริหารจัดการวัคซีนของภาครัฐอย่างไร้ระบบ มีการเปลี่ยนระบบการจองวัคซีนรายวัน ตลอดจนปัญหาการเข้าถึงวัคซีนของประชาชน โดยสถานการณ์ล่าสุดขณะนี้ มีผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าถ้ารัฐยังไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้แล้ว ในอีก 3 สัปดาห์ข้างหน้า สถานการณ์โควิดระบาดจะรุนแรงมากขึ้นเกินกว่าศักยภาพของสาธารณสุขไทยจะรับมือได้

กรณีที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้นำเข้าวัคซีนทางเลือก มีหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ความสนใจจองวัคซีนดังกล่าว แต่มีข่าวจากนายวิษณุ เครืองาม ว่าการใช้เงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไปซื้อวัคซีนอาจผิดกฎหมายเพราะเป็นการใช้งานผิดประเภทนั้น ตนขอแสดงความเห็นว่า ไม่เห็นด้วยกับความเห็นดังกล่าว เพราะในภาวะวิกฤตเช่นนี้ รัฐไม่สามารถจัดหาวัคซีนให้ได้อย่างรวดเร็วทั่วถึง ก็ไม่ควรจะห้ามองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่จะใช้งบประมาณของตนเองในการดูแลท้องถิ่นตนเอง

พรรคเพื่อไทยมีความเห็นว่า การใช้คำว่า “วัคซีนหลัก” และ “วัคซีนทางเลือก” จะสร้างปัญหาให้กับประชาชน เพราะอย่างไรก็ดี วัคซีนทุกยี่ห้อที่ องค์การอนามัยโลกได้ประกาศรับรอง และ อย.ได้ประกาศรับรอง ทั้งหมดเป็นวัคซีนดีเป็นวัคซีนที่มีคุณภาพ และวัคซีนทุกตัว ควรให้เป็น “วัคซีนหลัก” ของประเทศทุกยี่ห้อ ไม่ควรมีคำว่าวัคซีนทางเลือกเพราะเปิดช่องให้เอกชนเข้าหาผลประโยชน์ทั้งที่วัคซีนเป็นยาพื้นฐานที่ประชาชนทุกคนควรเข้าถึงได้ตามสิทธิในรัฐธรรมนูญ ตนจึงขอเสนอว่า

  1. วัคซีนเป็นยาจำเป็นในการดูแลสุขภาพพี่น้อง วัคซีนป้องกันโควิดทุกตัวถือว่าเป็นยาจำเป็นในการป้องกันขจัดโรคอันตรายติดต่อให้กับประชาชน ยาทุกตัวควรได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นยาหลักของประเทศหรือบัญชียาหลักแห่งชาติ
  2. ศบค. ต้องมีวัคซีนหลัก ที่มีความหลากหลายตามที่ องค์การอนามัยโลกรับรองให้ใช้ในสภาวะฉุกเฉิน ไม่ว่าจะโมเดอร์นา ไฟเซอร์ ฯลฯ การฉีดวัคซีนให้ประชาชน ตามที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายไว้ว่าฉีดให้ได้ 50 ล้านคนหรือ 100 ล้านโดส ถ้าเอกชนสามารถจัดหาวัคซีนได้ ทุกภาคส่วนก็จะช่วยกันจัดหาวัคซีนให้ประชาชนเช่นกัน เมื่อราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้เปิดแนวทางว่าภาครัฐที่มีกฎหมายเฉพาะสามารถจัดหาวัคซีนได้ ก็เป็นการเปิดช่องให้หน่วยงานภาครัฐมีโอกาสได้หาวัคซีนให้ประชาชนได้อย่างเท่าเทียม กระจายทั่วถึง
  3. ยกเลิกคำว่า “วัคซีนทางเลือก” เพราะการประกาศให้วัคซีนตัวใดตัวหนึ่งเป็นวัคซีนทางเลือก จะทำให้กระทบต่อสิทธิของประชาชนในรัฐธรรมนูญ ที่คุ้มครองให้บุคคลได้รับวัคซีนได้อย่างทั่วถึง รัฐมีหน้าที่จัดหาให้ประชาชนโดยปราศจากค่าใช้จ่าย เมื่อรัฐกำหนดให้วัคซีนตัวใดเป็นตัวหลัก เท่ากับเปิดช่องให้มีวัคซีนทางเลือกที่จะนำไปสู่การมีค่าใช้จ่ายสูงกับประชาชน จนนำไปสู่ความเหลื่อมล้ำในการรับวัคซีนไม่เท่ากัน
  4. การมีวัคซีนทางเลือก นอกจากสร้างควาเหลื่อมล้ำจนอาจเป็นความวุ่นวายได้ เมื่อรัฐไร้ความสามารถจัดหาวัคซีน ประชาชนดิ้นรนหาวัคซีนก็จะวุ่นวายกัน
    พรรคเพื่อไทยมุ่งหวังว่าหากประชาชนได้รับวัคซีนฟรีจากรัฐทุกหน่วยงานแล้ว จะทำให้ทั่วถึง รวดเร็ว และรัฐต้องอุดหนุนค่าวัคซีนให้ทุกหน่วยงานทั้งหมด ไม่ควรเอาเงินภาคเอกชนหรือเงินท้องถิ่นที่จำกัดอยู่แล้วมาใช้จ่ายในเรื่องนี้
    ดังนั้นจึงขอให้เลิกคำว่า “วัคซีนทางเลือก” และให้วัคซีนทุกตัวที่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลกเป็น “วัคซีนหลัก” ของชาติที่ทุกคนเข้าถึงได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายทันที