“เพื่อไทย” ชี้ “ประยุทธ์” จัดการโควิดผิดพลาด ทำธุรกิจท่องเที่ยวทรุดหนัก จี้ เร่งช่วยเหลือก่อนท่องเที่ยวไทยกู่ไม่กลับ
(2 มิถุนายน 2564) นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส. เชียงใหม่ รองเลขาธิการ และ คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวในการอภิปรายงบประมาณรายจ่ายปี 65 ว่า การท่องเที่ยวไทยได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการระบาดของไวรัสโควิดทั้ง 3 รอบจากการบริหารจัดการที่ผิดพลาดของรัฐบาล ซึ่งทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวที่เคยทำรายได้ให้กับประเทศไทยอย่างมหาศาลมีสัดส่วนถึง 16% ของจีดีพี และมีการกระจายรายได้อย่างทั่วถึง ต้องมีรายได้หดหาย มีปัญหาหนี้สินเป็นจำนวนมาก หนี้ NPLของธุรกิจท่องเที่ยวพุ่งขึ้นถึง 5แสนล้าน และจะทำให้หนี้เสียในระบบธนาคารมีโอกาสพุ่งถึง 1.1 ล้านล้านบาทแล้ว หรือ 6.44% ของสินเชื่อรวม
นายจักรพล กล่าวต่อว่า ผลกระทบของธุรกิจท่องเที่ยวที่หดหาย ไปซ้ำเติมเศรษฐกิจไทยให้แย่กว่าเดิม ทำให้ยอดคนจนพุ่งสูงขึ้น 100% จาก 4.7 ล้านคนเป็น 9.7 ล้านคน ตัวเลขผู้ว่างงาน ที่กำลังตกงาน และนักศึกษาที่กำลังจะจบใหม่ รวมๆเกือบ 10 ล้านคน หนี้ครัวเรือนพุ่งสูงขึ้นถึง 92% คิดง่ายๆคือ คนไทย 67 ล้านคนจะมีหนี้เพิ่มขึ้นคนละ 14,000 บาทต่อหัว เปรียบคือทารกเกิดใหม่ปุ๊ป มีหนี้ทันทีเลย 140,000 บาท ทั้งที่การท่องเที่ยวมีความสำคัญต่อประเทศอย่างมาก แต่กลับได้รับการจัดสรรงบประมาณที่น้อยมาก มีสัดส่วนเพียง 0.24% เท่านั้น แสดงถึงพลเอกประยุทธ์ไม่สามารถแยกแยะลำดับความสำคัญของเรื่องต่างๆได้ ทั้งนี้อยากเสนออนาคตของการท่องเที่ยวไทยในรูปแบบใหม่เช่น โมเดลการท่องเที่ยวปลอดภัย ผ่านการผลิตอาหาร-ผลไม้ สมุนไพรเพื่อสุขภาพ สู่การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติอย่างยั่งยืน” หรือการสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ เช่น โครงการ 1 อำเภอ , 1 แหล่งท่องเที่ยวใหม่ เพื่อสร้าง Landmark ใหม่ๆ ใน concept CBT และ BCG ภายใต้แนวคิด smart tourism และ creative economy เป็นต้น ซึ่งไม่แน่ใจว่าพลเอกประยุทธ์จะเข้าใจขนาดไหน นอกจากนี้ รัฐบาลควรจะต้องมีแนวทางในการแก้ไขฝุ่น PM 2.5 ที่เป็นภัยต่อสุขภาพของประชาชน แต่กลับไม่มีงบประมาณในเรื่องนี้เลย
“การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีครั้งนี้ ไม่ผ่าน ไม่ตอบโจทย์ ไม่เรียงลำดับความสำคัญ ไม่สร้างสรร ไม่เห็นทางรอด และไม่สามารถปล่อยให้ผ่านไปได้” นายจักรพล กล่าว.