นายนพพล เหลืองทองนารา ส.ส.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์ภัยแล้งปีนี้รุนแรงมาก เกษตรกรในพื้นที่พิษณุโลก ไม่มีน้ำทำเกษตรกรรม ปัจจัยสำคัญมาจากรัฐบาลไม่จัดสรรน้ำให้ ทั้งๆที่เขื่อนนเรศวร มีน้ำต้นทุนมากพอที่จะระบายออกมาให้เกษตรกรเพื่อทำการเพาะปลูก แต่ปรากฏว่าทางกรมชลประทานกลับไม่จัดสรรน้ำเข้าคลองชลประทานสาขา ให้เกษตรกรได้เพาะปลูก อ้างว่าน้ำที่มีสำรองไว้ผลักดันน้ำเค็ม จึงไม่สามารถส่งน้ำเข้าคลองสาขาได้ แต่เป็นที่น่าประหลาดใจว่าในพื้นที่จังหวัดสุโขทัยที่ติดกับพิษณุโลก เหตุใดกรมชลประทาน จึงส่งน้ำเข้าสู่คลองชลประทานเป็นจำนวนมาก หรือเพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ของรัฐบาลจึงได้รับการจัดสรรน้ำมากกว่าพื้นที่อื่น

นายนพพล กล่าวด้วยว่า กรณีที่ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ประกาศว่า 2 ปีไม่มีประกาศพื้นที่ภัยแล้งเลย อยากถามพลเอกประวิตร ว่าเชื่อจริงหรือว่าไม่มีภัยแล้ง ทั้งนี้พื้นที่ปลูกข้าวกว่า 500,000 ไร่ที่อำเภอพรหมพิราม แล้งมาทุกปี เกษตรกรไม่มีน้ำทำนา ครั้งที่พลเอกประวิตรไปลงพื้นที่ก็รับฟังแต่รายงานที่เป็นรายงานที่อวย มากกว่าจะรายงานข้อเท็จจริง แถมไม่ลงพื้นที่ไปดูด้วยตาตัวเอง จึงไม่รู้ว่าความช้ำใจที่เกษตรกรต้องปล่อยข้าวยืนต้นตายมันท้อแค่ไหนที่รัฐบาลไม่ให้ความสำคัญ

“เหตุใดรัฐบาลจึงพยายามขยายความเหลื่อมล้ำในภาคเกษตร โดยพื้นที่ไหน มีส.ส.รัฐบาล หรือมีรัฐมนตรีร่วมคณะรัฐบาลก็จะได้รับการจัดสรรน้ำมากเป็นพิเศษ หลายจังหวัดที่มี ส.ส.พรรคเพื่อไทยจะไม่ได้รับการจัดสรรน้ำให้เกษตรกรหรือจัดสรรให้น้อยมาก น่าละอายใจมาก ที่รัฐบาลนำความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนมาเป็นข้อต่อรองทางการเมือง ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม แต่ภายใต้การบริหารของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กลับนำความเดือดร้อนของเกษตรกร มาหาประโยชน์ทางการเมือง” นายนพพล กล่าว