พรรคเพื่อไทย แถลงข่าว ภาพรวมประชุมกรรมาธิการงบประมาณฯ ปี 65 และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
(13 มิถุนายน 2564) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.นนทบุรี แถลงข่าวสรุปผลการประชุม กมธ.งบประมาณปี 65, ผลการประชุมสภา พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้าน และ การแก้ไข รธน. ส่วนพรรคเพื่อไทย
สรุปผลประชุมคณะกรรมาธิการงบประมาณรายจ่ายประจำปี 65 ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน ได้เชิญปลัดกระทรวงการคลัง, ผู้อำนวยการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ , ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย, ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ และหน่วยงานอื่นๆ มาชี้แจง สรุปว่า เลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจฯ ยืนยันแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 65 จะเติบโตร้อยละ 4.5 โดยหน่วยจัดเก็บรายได้เชื่อว่าจะสามารถจัดเก็บรายได้ตามเป้าหมาย
สัปดาห์หน้า คณะกรรมาธิการงบประมาณฯ จะพิจารณางบประมาณของ กระทรวงการคลัง หนี้สาธารณะ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานโยบายรัฐวิสาหกิจ ฯลฯ เป็นต้น และจะตั้งอนุกรรมาธิการรวม 8 คณะ โดยขณะนี้ยังไม่มีข้อยุติ โดยกำลังให้กรรมาธิการในสัดส่วนของพรรคการเมืองแต่ละพรรคไปพูดคุยจัดตั้งอนุกรรมาธิการชุดต่างๆ และนำมาเสนอให้ชุดใหญ่พิจารณาหาข้อยุติกันในวันพุธที่ 16 มิถุนายนนี้ เพื่อแต่งตั้งคณะอนุกรรมาธิการ รวม 8 คณะต่อไป
กรณีเรื่อง กองทัพเรือ ตั้งเพจเรือดำน้ำไทย Thai Submarines เผยแพร่คลิปวิดิทัศน์ยอมรับว่ามีการตั้งงบ 2.25 หมื่นล้านบาทในปีงบประมาณ 65 จริง โดยอ้างว่าในอดีต ไทยเคยมีเรือดำน้ำมาก่อน 4 ลำ เข้าประจำการและตอนนี้ไม่มี จึงมีความจำเป็นและเป็นยุทธศาสตร์ทางทะเล ซึ่งขอเรียนว่า เรามีวิกฤตเศรษฐกิจ วิกฤตโรคระบาด และไทยไม่มีเงินจะซื้อ ต้องไปกู้เงิน 7 แสนล้านมา ซึ่งถ้ากองทัพเรือมั่นใจว่า เรือดำน้ำจำเป็นเร่งด่วน อยากท้าให้กองทัพเรือทำโพลสอบถามประชาชนว่า สถานการณ์วิกฤตโควิดขณะนี้ เหมาะสมไหมที่จะซื้อเรือดำน้ำ ซึ่ง เมื่อปีที่แล้วเพจไทยรัฐออนไลน์เคยทำโพลปรากฎว่า มีประชาชนตอบโพลร้อยละ 93.8 เปอร์เซ็นต์ ไม่เห็นด้วยกับการซื้อเรือดำน้ำ
กรณี การอภิปราย พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้าน นายรัฐมนตรีตอบไม่ตรงคำถาม ไม่มีรายละเอียดการใช้เงิน โดยบอกแค่เงินที่กู้มาเพื่อแก้ไขเยียวยาเศรษฐกิจและสังคม ขณะเดียวกัน เงินกู้เก่า 1 ล้านล้านบาทยังเหลือ 2.9 แสนล้าน ซึ่ง รมต.คลังก็ยอมรับว่า ที่กู้ใหม่ 5 แสนล้านจะใช้ได้เร็วสุดแค่ 1 แสนล้านทันสิ้นสุดปีงบ 64 ดังนั้น จึงเสนอว่าควรจะออกเป็นงบกลางปีหรือออกเป็นพระราชบัญญัติ ก็ยังดีกว่าเป็น พ.ร.ก.เงินกู้ซึ่งตรวจสอบไม่ได้ แต่แทนที่นายกรัฐมนตรีจะมาสภาเพื่อชี้แจง แต่กลายเป็นมาข่มขู่สภาว่า “พวกที่พูดข้างนอกก็ระวังตัวให้ดีแล้วกัน”
ท่าทีพรรคเพื่อไทย กับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี65 พรรคเพื่อไทยยืนยันแก้ไข รธน. โดยจะแก้ไขทั้ง 2 แบบ คือแก้ไขทั้งฉบับ ตามมาตรา 256 และแก้ไขเป็นรายมาตรา เรื่องสิทธิเสรีภาพในหมวด 3 แก้ไขเรื่องบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ แก้ไขเรื่องจำกัดอำนาจ ส.ว.ไม่ให้โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งรายละเอียดทั้งหมด พรรคเพื่อไทยจะต้องหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านก่อนในวันพรุ่งนี้ และจะแถลงข่าวให้สื่อมวลชนทราบภายหลังการประชุมเสร็จสิ้นต่อไป