“เพื่อไทย” ชี้ “ประยุทธ์” เต้นตาม “พี่โทนี่” เพราะคิดเองไม่เป็น อาศัยหน้าทนทานอยู่ต่อไปแม้บริหารพลาดหนัก ห่วง “ประยุทธ์” คิดเป็นแค่เรื่องกู้ และโรงจำนำ ขณะ “พี่โทนี่” คิดสร้างรายได้ แนะ ต้องแก้รธน. เพื่อเปลี่ยนผู้นำ เพราะ “ผนงรจตกม” ทำคนตายเป็นพันเจ็บเป็นแสนแล้ว

นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า  เพียงแค่ “พี่โทนี่” แนะวิธีการจัดการแบบผู้นำมืออาชีพทำพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องตื่นจนเสียทรง  ประกาศแถลงข่าวด่วนช่วงเย็นเมื่อวาน คนหลงคิดว่าจะแถลงยุบสภาหรือแถลงลาออก ประกอบกับเห็นความกระตือรือร้นของบรรดาพรรคร่วมรัฐบาลที่ต่างแสดงท่าทีว่าจะทิ้งเรือแป๊ะ เตรียมพร้อมเลือกตั้งใหม่อย่างออกหน้าออกตา  และจะรีบเปิดประเทศภายใน 120 วัน  คนฟังหันมองหน้ากันเกิดคำถามว่า เอาอนาคตอันใกล้ก่อนได้ไหม  วันนี้วัคซีนอยู่ไหน จะจัดสรรวัคซีนได้เมื่อไหร่ ประชาชนที่ถูกเลื่อนฉีดจะได้วัคซีนวันไหน เท่านี้ก่อน  ขนาดพี่โทนี่มา 2 อาทิตย์หน รัฐบาลสะดุ้งสะเทือนกันทั่วถึงจริงๆ เพียงแค่ข้ามคืนที่พี่โทนี่เข้ามาพูดในคลับเฮ้าส์ สอนกระบวนการบริหารจัดการแบบผู้นำแบบมืออาชีพกระทุ้งทำไมเรื่องการจัดวัคซีนทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก ย้อนรอยพี่โทนี่เคยแนะรัฐบาลหลายรอบว่าให้เลิกแจกเงิน แล้วมาทำโครงการวัคซีนฟรี มีวัคซีนทุกยี่ห้อสามารถเลือกฉีดวัคซีนได้ และเมื่อฉีดวัคซีนได้ปริมาณมากพอก็เปิดประเทศ รับนักท่องเที่ยวเศรษฐกิจเดินหน้าได้ และสอนมวยพล.อ.ประยุทธ์ ว่าการตั้งงบกู้เงินช่วงนี้ตั้งเท่าไหร่ การเอาเงินไปแจก เท่ากับการเอาไปปิดแผลเก่าไม่ได้ช่วยอะไรเลย เพราะมันไม่มีโอกาสที่จะไปลงทุนอะไรเลยภาวะของเศรษฐกิจในประเทศไม่เอื้ออำนวย ท่องเที่ยวไม่มา ปิดหมด มีเท่าไหร่ก็คือเจ๊ง  ดูโครงการคนละครึ่ง คนลงทะเบียนเหลือเยอะ อาจเพราะคนเข้าไม่ถึงระบบ หรือคนไม่มีเงินไปใช้ แม้รัฐออกให้ครึ่งคนก็ไม่มีเงินควักออก คนไทยไม่มีเงินกินมาก ต้องแก้ไขเศรษฐกิจโดยด่วน ยิ่งคนเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจอย่างพล.อ.ประยุทธ์ บอกว่าต้องเพิ่มจำนวนโรงรับจำนำและจัดทำโรงรับจำนอง หมดเลยประชาชนหมดทางรอดเลย เพราะทุกวันนี้แม้กระทั่งครกจะเอาไปจำนำยังไม่มี ยุคพี่โทนี่เป็นนายกรัฐมนตรีประชาชนมีแต่สร้างรายได้ ขยายโอกาส แต่ยุคพล.อ.ประยุทธ์ กลับมีแต่เพิ่มโรงจำนำเอาของเก่ามาขาย มันสะเทือนใจจุกในอก ช่างต่างกันราวฟ้ากับเหว เสียดายโอกาสประเทศไทยจริงๆ

“ดูอย่างวันที่ 15 มิถุนายน ที่ผ่านมา นายแอนดรูว์ ดูโอโม ผู้ว่าการนครนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกาเขาจัดงานเฉลิมฉลองประกาศชัยชนะเหนือโควิดหลังเขาล็อกดาวน์นครนิวยอร์กเพื่อควบคุมโรคมานาน 15 เดือน จัดการฉีดวัคซีนให้ประชากรเกิน 70% เขาประกาศยกเลิกมาตรการควบคุมโรคโควิดออกเกือบทั้งหมด ยกเลิกการใส่หน้ากากอนามัยและการเว้นระยะห่าง  เช่นเดียวกับอีกหลายรัฐในสหรัฐอเมริกา ตัดกลับมาประเทศไทยวันที่ 15 มิถุนายนเป็นวันประกาศเลื่อนฉีดวัคซีนพราะไม่มีวัคซีนฉีดให้ประชาชนแถมยังเลื่อนอย่างไม่มีกำหนด จำนวนการฉีดวัคซีนไม่ถึง 10% ของจำนวนประชากร   ขณะที่เมื่อวานพล.อ.ประยุทธ์ กลับออกมาแถลงด่วนว่ากำลังเจรจากับผู้ผลิตวัคซีนรายใหม่ๆ อีก 6 ราย ยืนยันการจัดหา ลงนามในสัญญาจองหรือสัญญาซื้อไปแล้ว 105.5 ล้านโดส จะสามารถฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้โดยเฉลี่ยประมาณเดือนละกว่า 10 ล้านโดส หากวัคซีนส่งมาเพียงพอในแต่ละเดือนและประมาณต้นเดือนตุลาคม จะมีประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนอย่างน้อยเข็มแรกแล้ว จำนวน 50 ล้านคน

“ ท่านคะวัคซีนทิพย์หรือเปล่า นี่เดือนมิถุนายน กลางปีเรายังขาดวัคซีน ไม่มีวัคซีนฉีดให้กับประชาชน ท่านบอกว่าอีก 6 เดือนข้างหน้าเราจะมีวัคซีน 105.5 ล้านโดส อนาคตอันไกลนึกภาพตามไม่ออกจริงๆ แต่ถ้าถามอนาคตอันใกล้ก่อนว่าประชาชนที่รอฉีดวัคซีนจะได้ฉีดกันวันไหน ท่านช่วยตอบหน่อย โควิดผ่านมาปีกว่าประชาชนเดือดร้อนกันถ้วนหน้าเขาจะได้รับการช่วยเหลือเมื่อไหร่  เพราะที่ผ่านมาเห็นแต่อภิมหากู้แต่เอามาแจกประชาชนแบบกระปริบกระปรอย เช่นเดียวกับนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ที่เคยออกมาเตือน เรื่องพ.ร.ก. 5 แสนล้านว่าผิดวินัยการเงินการคลัง อย่าคิดแต่กู้เพียงต้องการใช้ไปวันๆแต่ต้องคิดวิธีหาเงินใช้หนี้ด้วย เพราะการใช้เงินอีก 5 แสนล้านบาทดังกล่าวจะทำให้หนี้สาธารณะของไทยพุ่งทะลุเกินเพดาน 60% ของจีดีพี และเตือนหลายครั้ง  พล.อ.ประยุทธ์ เคยฟังบ้างหรือไม่ หรือท่านคิดเพียงว่ากู้เท่าไหร่ก็ได้เพราะท่านไม่ได้เป็นคนใช้หนี้ใช่หรือไม่

“ต้องรีบแก้ไขรัฐธรรมนูญควบคู่กับแก้เศรษฐกิจเพื่อหาทางรอดให้ประเทศ ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องมองไปในอนาคตอันใกล้ที่มองเห็นอนาคตอันไกล และคนเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ควรออกมาขอโทษในความผิดพลาดในการบริหารประเทศบ่อยๆ  ท่านเป็นคนทนทานจริงๆ ถ้าเป็นผู้นำประเทศอื่นเขาลาออกไปนานแล้ว เปลี่ยนจากคำขอโทษเป็นคำว่าลาออกเถอะค่ะ เปลี่ยนผู้นำประเทศนั่นคือทางรอดของประเทศและประชาชน เพราะผนงรจตกม” นางสาวตรีชฎา กล่าว