นายปิยวัฒน์ พันธ์สายเชื้อ ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า มาตรการ การช่วยเหลือค่าครองชีพ โดยเฉพาะมาตรการ คนละครึ่ง ของรัฐบาลมีวิธีการที่ยุ่งยากเข้าร่วมโครงการยาก นอกจากนี้ยังไม่ตรงกลุ่มเป้าหมาย ประชาชนมากกว่า 7 ล้านคนเข้าไม่ถึงมาตรการนี้ วิธีการแก้ปัญหาของรัฐคือใช้การแจกเงินเป็นหลัก หลายฝ่ายกังวลว่าหลังจากหมดมาตรการ แจกเงินแล้วรัฐบาลจะมีมาตรการที่จะช่วยให้ชีวิตประชาชนดีขึ้นได้อย่างไร ทั้งนี้ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาโรคระบาด เพราะต้องการให้เปิดช่องทางทำมาหากินเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตมากกว่า

 นอกจากนี้รัฐบาลต้องเร่งฟื้นฟูความเชื่อมั่น ทางเศรษฐกิจเพื่อให้เกิดการจ้างงาน เพราะตัวเลขคนตกงานจนถึงวันนี้เกือบ 10 ล้านคน ในขณะที่นักศึกษาจบใหม่กว่า 9 แสนคนยังไม่มีงานทำ หากไม่เร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ สร้างความเชื่อมั่น ในประเทศ เชื่อว่าตัวเลขคนตกงานจะเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้กระทบกับรายได้ประชาชน ดังนั้นรัฐต้องพูดความจริงกับประชาชน ว่าวัคซีนโควิดจะพร้อมเมื่อไหร่ ความพร้อมของรัฐบาลอยู่ที่ไหน ไม่ควรเลื่อนจนทำให้ประชาชนหมดความหวังว่าจะได้วัคซีนในเร็ววัน

 นายปิยวัฒน์ กล่าวด้วยว่า กรณีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศเตรียมเปิดประเทศภายใน 120 วันนั้น เพื่อรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทยอีกครั้ง ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่กังวลใจว่าการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อโควิดจะไม่เป็นตามที่รัฐบาลประกาศ เพราะในปัจจุบันยังคงมีความไม่ชัดเจนและหลายพื้นที่ไม่มีวัคซีนฉีดให้ประชาชน หมอพร้อม ประชาชนพร้อมแต่วัคซีนไม่พร้อม แล้วจะให้ประชาชนเชื่อมั่นในรัฐบาลได้อย่างไรว่าจะฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้ถึง 50 ล้านคน หวั่นใจว่าหากยังไม่พร้อมแล้วเปิด จะส่งผลกระทบกับประชาชนภายในประเทศ