เพื่อไทย จี้ประยุทธ์หยุดรังแกประชาชน จวกล่อซื้อน้ำส้ม – คนละครึ่งเฟส 3 สะท้อนรัฐซ้ำเติมความทุกข์ประชาชน
นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าขณะที่ในสภา ส.ส. หลากหลายพรรคได้พิจารณาวาระสำคัญที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของพี่น้องประชาชน แต่พรรคพลังประชารัฐเลือกที่จะประชุม ส.ส. ที่ต่างจังหวัดไม่สนใจการทำงานในสภา สะท้อนภาพได้ชัดเจนว่าพรรคนี้ให้ความสำคัญกับการจัดการปัญหาเรื่องในพรรคเป็นหลัก การแก้ปัญหาพี่น้องประชาชนเป็นเรื่องรอง ทั้งที่ปัจจุบันพี่น้องประชาชนประสบปัญหาขาดรายได้และเดินทางเข้าสู่หุบเหวแห่งความยากจนมากขึ้นเรื่อยๆ แต่รัฐบาลไม่เคยมองเห็นหัวประชาชน ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ภาครัฐรังแกประชาชนด้วยการล่อซื้อน้ำส้ม 500 ขวด ทั้งที่ควรใช้กระบวนการปกติในการจับกุม การดำเนินการแบบนี้ยิ่งซ้ำเติมให้คนหาเช้ากินค่ำเดือดร้อนต้องเป็นทุกข์ซ้ำซ้อน ในขณะที่การออกมาตรการ “คนละครึ่งเฟส3” ผ่านไปหลายวันการลงทะเบียนยังไม่เต็มสิทธิ์ แสดงให้เห็นว่าเงินในกระเป๋าของประชาชนหมดแล้ว แม้รัฐบาลจะช่วยออกครึ่งหนึ่ง ประชาชนก็ไม่เหลือเงินที่จะจ่ายอีกแล้ว รวมถึงโครงการ “ยิ่งช็อปยิ่งได้” ที่สร้างเงื่อนไขให้มากมาย เหมือนไม่เต็มใจเยียวยาหรือกระตุ้นการจับจ่าย ทำไปเพียงให้มีมาตรการออกมาประชาสัมพันธ์ผลงานตัวเองเพื่อหวังสร้างคะแนนเสียงเท่านั้น
นายชนินทร์ กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลพิจารณาปรับเปลี่ยนเงื่อนไขให้ง่ายมากขึ้น เช่น การเอาเงื่อนไขลดหย่อนภาษี หรือการได้ส่วนลดใช้จ่ายทันทีมาประยุกต์ใช้ จะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า เป็นการใช้งบประมาณแผ่นดินที่มาจากภาษีประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ และเติมเม็ดเงินเข้าไปในระบบเศรษฐกิจได้ทันการณ์
“หากพลเอกประยุทธ์ จริงจังที่จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ต้องเข้าใจและเห็นใจประชาชนให้มากกว่านี้ อย่าเอาแต่สร้างเงื่อนไขและปล่อยปละให้เจ้าหน้าที่รัฐขูดรีดพี่น้องประชาชน กรณีล่อซื้อน้ำส้มไม่ใช่ครั้งแรกและครั้งเดียวที่พี่น้องประชาชนถูกรังแกและโดนซ้ำเติมจากการบริหารที่ผิดพลาด พวกท่านต้องปรับความคิดใหม่ หากทำไม่ได้ทำไม่เป็น ก็ให้คนอื่นเข้ามาทำแทนครับ” นายชนินทร์กล่าว