“เพื่อไทย” ย้ำ แผนเปิดประเทศ 120 วัน ต้องมียุทธศาสตร์รองรับ ไม่จับประชาชนเป็นตัวประกัน ไม่เอาชีวิตคนไทยเซ่นสังเวยความล้มเหลว
ดร.อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศเปิดประเทศใน 120 วัน ว่าจะต้องมีแผนงานรองรับ ไม่จับประชาชนเป็นตัวประกัน และต้องไม่เอาชีวิตคนไทยไปเซ่นสังเวยความล้มเหลวของรัฐบาล โดยนโยบายเปิดประเทศนั้นขอย้ำว่า พรรคเพื่อไทยเห็นเป็นเรื่องที่ดี และก่อนหน้านี้ก็เคยเสนอให้เปิดประเทศมาโดยตลอด แต่ประชาชนตั้งคำถามว่าจะเปิดประเทศอย่างไร เพราะยังไม่เห็นแผนยุทธศาสตร์รองรับว่านโยบายเปิดประเทศ 120 วัน จะทำอย่างไร และอดีตที่ผ่านมารัฐบาลประกาศนโยบายใดก็ตาม เมื่อทำไม่ได้ก็มักมีเหตุผลและคำแก้ตัว สร้างความหวังแล้วทำไม่ได้แต่ไม่พูดความจริงกับประชาชน ใช้วิธีสร้างความหวังใหม่ไปเรื่อยๆ แม้กระทั่งวันเริ่มนับถอยหลังเปิดประเทศ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรียังเริ่มนับวันไม่ตรงกัน แล้วจะให้ประชาชนเชื่อมั่นได้อย่างไร นอกจากนี้คำว่าเปิดประเทศใน 120 วัน คือเปิดประเทศไทยทั้งประเทศหรือเปิดแค่จังหวัดภูเก็ต ดังนั้นรัฐบาลต้องชัดเจน เพราะประชาชนจับตาสัญญาประชาคมนี้ไว้และจ้องมองว่าถ้ารัฐบาลทำไม่ได้จริงตามสัญญาจะรับผิดชอบอย่างไร
ดร.อนุสรณ์ กล่าวต่อว่ากรณีการจัดสรรวัคซีนให้เอกชนโดยมีหนังสือราชการสั่งการให้จัดสรรวัคซีนแก่พนักงานบริษัทเอกชนและครอบครัวดังที่ปรากฏเป็นข่าวนั้น เป็นการเอื้อประโยชน์ให้บริษัทเอกชนหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้มีกรณีการพาวีไอพีลัดคิวฉีดวัคซีนขณะที่ประชาชนยืนรอ 3 ชั่วโมง แต่การออกหนังสือจัดสรรวัคซีนให้พนักงานเอกชนและครอบครัว คือการลัดคิวระดับชาติ ซึ่งราชการไม่ควรเอื้อประโยชน์ให้บางบริษัทเพราะจะนำไปสู่ความไม่ไว้ในวางใจรัฐบาลมากไปกว่านี้
“การวางแผนเปิดประเทศ 120 วัน ต้องมีแผนยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน ถ้าไม่ชัดเจนจะกลายเป็นนับถอยหลังขุดหลุมฝังตนเอง อีกทั้งอัตราการฉีดวัคซีนของคนไทยยังไม่ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะจับตาดูว่า รัฐบาลจะมียุทธศาสตร์อะไรมารองรับสัญญาประชาคมนี้”