นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีกระทรวงกลาโหมใช้งบประมาณจากภาษีประชาชน กว่า 1,200 ล้านบาท จัดซื้ออากาศยานเพื่อการเดินทางของผู้บัญชาการและบุคคลสำคัญลำใหม่ว่า แม้โฆษกกระทรวงกลาโหมจะชี้แจงว่าเป็นรายการผูกพันที่ทยอยจัดส่ง แต่ภายใต้สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่ยังวิกฤต ประชาชนทุกข์ยากแสนสาหัส รัฐบาลขาดแคลนรายได้จากการเก็บภาษีไม่ได้ตามเป้า ไม่ควรต้องมีการใช้งบประมาณที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนเช่นนี้ การที่โฆษกกระทรวงกลาโหมออกมาเรียกร้องให้ประชาชนเห็นใจ จะมีโควิดหรือไม่ก็ควรต้องซื้ออยู่ดี ยิ่งตอกย้ำว่า พลเอกประยุทธ์ ดีแต่พูดบอกรักประชาชน แต่ปากว่าตาขยิบ ไม่เคยเห็นประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ในช่วงเวลาแบบนี้สิ่งที่ต้องทำคือการแก้ไขปัญหาปากท้อง และใช้จ่ายเงินภาษีอย่างคุ้มค่ามากกว่า

นายชนินทร์ กล่าวว่า พลเอกประยุทธ์ รับบทเป็นทั้งนายกรัฐมนตรี ทั้งหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ ผอ.ศบค. ยิ่งสมควรต้องรับรู้ปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้น ต้องเรียงลำดับความสำคัญของการใช้เงินอย่างรอบคอบ และต้องเจรจาการจัดซื้อและรับมอบโดยการยืดระยะเวลาออกไปก่อน โดยเฉพาะกับการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์และยานพาหนะราคาแพงที่ไม่ได้ทำให้เงินในกระเป๋าของพี่น้องประชาชนเพิ่มขึ้น

“การกระทำของกระทรวงกลาโหมในเวลานี้ เหมือนลูกอยากได้รถสปอร์ตคันใหม่ ไม่สนใจว่าพ่อแม่พี่น้องกำลังกัดก้อนเกลือกิน พลเอกประยุทธ์ ปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปได้อย่างไร เหตุใดจึงใช้งบประมาณยํ่ายีหัวจิตหัวใจพี่น้องประชาชนในภาวะลำบากแบบนี้” นายชนินทร์กล่าว