หาก “วัคซีน” คือทางออก ในการหยุดการระบาดของโควิด-19 “การแก้ไขรัฐธรรมนูญ” ก็คือทางออกของประเทศที่จะนำพาแสงสว่างเข้ามาท่ามกลางความมืดมน

เดินหน้าทำทุกทางแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 60 
เพื่อลดทอนอำนาจ“ระบบเผด็จการ” เพิ่มเติมความเป็น “ประชาธิปไตย 

มาถึงวันนี้คงไม่ต้องพูดแล้วว่า รัฐธรรมนูญ ปี 60 นั้นก่อให้เกิดปัญหามากมายอย่างไรกับประเทศ 
เพราะผลงานเชิงประจักษ์ของรัฐธรรมนูญ คือ ทำให้ประเทศต้องอยู่ภายใต้การบริหารของผู้นำรัฐบาล และ คณะรัฐมนตรี ที่ “ไร้ศักยภาพ”  
ความล้มเหลวในการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด และ เศรษฐกิจ ในวันนี้ ที่ทำให้ผู้คนทั้งประเทศเห็นแต่ความมืดมน ล้วนมาจาก “ความไร้ศักยภาพ” ของรัฐบาล 

“หาก “วัคซีน” คือทางออก ในการหยุดการระบาดของโควิด-19 
“การแก้ไขรัฐธรรมนูญ” ก็คือทางออกของประเทศที่จะนำพาแสงสว่างเข้ามาท่ามกลางความมืดมน  “

ในเมื่อรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นเครื่องมือของผู้มีอำนาจที่ต้องการสืบทอดระบบเผด็จการได้สร้างกลไกปกป้องตนเองไม่ให้สามารถแก้ไขได้ง่าย  
ทำให้การแก้ไข เปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ ทำได้ยากมาก…
ยกเว้นการใช้กำลังอำนาจมาล้มล้าง……ซึ่งเป็นการกระทำที่ “ฝ่ายทหาร” ใช้เป็นวิถีในการยึดอำนาจไปจากประชาชนเสมอมา

…..ดังนั้น เราจึงต้องทำทุกช่องทางในการลดทอนอำนาจของ “ระบบเผด็จการ” 
และเพิ่มเติมความเป็น “ประชาธิปไตย”เข้าไปในรัฐธรรมนูญ….,    

1.การแก้รธน.โดยผ่านการแก้ มาตรา 256 ที่พรรคเพื่อไทยนำเสนอ คือกระบวนการ เปิดทาง ให้มี “การแก้รธน.ทั้งฉบับ “โดยจัดตั้งสสร.ที่มาจากประชาชน เพื่อทำหน้าที่ จัดทำรธน.ใหม่ ถือเป็นการ ยืนยัน อำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญ ของประชาชน …

2.การแก้รัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา ควบคู่ไปกับการแก้ไขทั้งฉบับ เป็นความจำเป็นที่ต้องกระทำควบคู่กันไป

เพราะเราไม่อาจแน่ใจได้เลยว่า…”การแก้ไขทั้งฉบับจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ หรือเกิดขึ้นได้เร็วหรือช้า แค่ไหน
หากการแก้ไขกระทำได้ไม่ลุล่วง หรือไม่สามารถกระทำได้
ไม่ว่าอุบัติเหตุการเมืองใดๆ เกิดขี้น ตามกติกาที่พวกเขากำหนดไว้

“เรา ต้องกลับไปใช้ กติกาที่ฝ่ายมีอำนาจเขียนไว้ ซึ่งจะไม่เป็นผลดีต่อ…ความเป็นประชาธิปไตย
การปลดล็อครัฐธรรมนูญทั้งฉบับ และการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา……จึงเป็นเรื่องที่ต้องทำคู่ขนานกันไป”

3.“พลังของประชาชน” ที่ตื่นตัวและส่งเสียงอย่างมีพลัง
คือปัจจัยหลักของความสำเร็จ ในการแก้ไขรธน.
ซึ่งต้องเข้ามามีส่วนร่วมและเกี่ยวข้องด้วย ให้ได้มีส่วนร่วมรับรู้ตั้งแต่เริ่มต้น เพราะ

“เสียงที่ทรงพลังของประชาชนทั้งแผ่นดิน”
เป็นหลักประกันเดียวที่จะผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ก้าวไปสู่ความสำเร็จ

สุดท้าย ขอยืนยันว่า
…รัฐธรรมนูญ ปี 60 คือต้นตอของความล้มเหลวทั้งปวง
…รัฐธรรมนูญทั้งฉบับต้องเขียนใหม่
…รัฐธรรมนูญรายมาตรา ก็ต้องแก้ไข

ประชาชนต้องส่งเสียงที่ทรงพลังแสดงเจตจำนง มิให้ผู้มีอำนาจ ขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

รัฐธรรมนูญ ที่ดี
…….ต้องเป็นรัฐธรรมนูญ ที่เคารพสิทธิประชาชน
และส่งเสริมบทบาทของประชาชนอย่างเต็มที่
……มิใช่รัฐธรรมนูญที่ออกแบบมา..ควบคุมและลดทอนของอำนาจประชาชน

“ทำทุกช่องทาง เพื่อลดทอน อำนาจเผด็จการ และ
เอาความเป็นประชาธิปไตยให้เพิ่มคืนมากขึ้น ”

ภูมิธรรม เวชยชัย
ที่ปรึกษา หัวหน้าพรรคเพื่อไทย
เลขาฯ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร
23 มิถุนายน 2564 

https://www.facebook.com/2175514402516392/posts/4210351752365970/?d=n