เร่งปรับเพิ่มบริการทางการแพทย์ให้พอ เร่งจัดหาวัคซีนประสิทธิภาพสูงมาเสริม
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ยังคงลุกลามรุนแรง การฉีดวัคซีนที่ล่าช้า พี่น้องประชาชนต้องใช้ชีวิตอย่างหวาดวิตกสิ้นหวัง จากความล้มเหลวในการควบคุมโรคระบาดของรัฐบาล วันนี้ธุรกิจรายย่อยล้มหายตายจาก ผู้คนตกงานสูงเป็นประวัติการณ์ คนจนเพิ่มขึ้นเฉียบพลัน ปรากฏข่าวคนฆ่าตัวตายรายวันจากความเครียดเพราะพิษเศรษฐกิจและโรคระบาด
พรรคเพื่อไทยไม่อาจนิ่งเฉยกับความล้มเหลวซ้ำซากของรัฐบาลในการแก้ไขวิกฤตโรคระบาด ขาดวิสัยทัศน์ ไร้ยุทธศาสตร์ มองไม่เห็นความทุกข์ซ้ำทุกข์ซ้อนของพี่น้องประชาชนแบบนี้ไม่ได้อีกต่อไป
เพื่อให้พร้อมต่อประกาศเปิดประเทศของรัฐบาล ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า อันเป็นทั้งความหวังและความกังวลของประชาชนคนไทยอันจะเป็นการเปิดทางสู่การฟื้นฟูเศรษฐกิจ
พรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ไขวิกฤตโควิด โดยดำเนินการตามมาตรการดังต่อไปนี้ :
1) การควบคุมโรคระบาดต้องควบคู่ไปกับการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ทั้งสองเรื่องนี้เป็นภารกิจสำคัญที่รัฐบาลต้องให้น้ำหนักสูงทัดเทียมสมดุลย์กัน
2) เปิด “วัคซีนเสรี” อนุญาตให้เอกชนที่มีศักยภาพ สามารถนำเข้าวัคซีนที่องค์การอนามัยโลก (WHO) รับรองได้ทันที รัฐบาลต้องอำนวยความสะดวกให้เอกชนมีส่วนร่วมในการจัดหาวัคซีน อันจะทำให้ได้วัคซีนที่หลากหลาย เพื่อให้พร้อมรองรับสถานการณ์การกลายพันธ์ุของเชื้อ และความเหมาะสมของประชาชนกลุ่มเป้าหมายต่างๆ กันในจำนวนที่เพียงพอ และจัดทำแผนการกระจายวัคซีนที่มีศักยภาพให้ทันต่อการเปิดประเทศ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจโดยเร็วที่สุด
วันนี้ประชาชนจำนวนมากที่เฝ้ารอวัคซีนต้องการคำตอบจากรัฐบาลว่าเหตุใดการดำเนินการจัดซื้อวัคซีนบางยี่ห้อจึงมีความล่าช้า ในขณะที่วัคซีนบางยี่ห้อที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมโรคด้อยกว่า กลับมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
3) เร่งจัดหาวัคซีนชนิด mRNA อันได้แก่ ไฟเซอร์ และ โมเดอร์นา มาเพิ่มเติมให้เร็วที่สุด เนื่องจากมีการศึกษาที่ชัดเจนว่าวัคซีนชนิดนี้มีประสิทธิภาพป้องกันการติดเชื้อสูง และสร้างภูมิต้านทานต่อเชื้อกลายพันธุ์ใหม่ๆ ขณะนี้ได้ดี
4) ต่อสถานการณ์ที่โรงพยาบาลไม่รับตรวจเพราะเกรงว่าเตียงจะไม่เพียงพอ เรื่องนี้รัฐบาลต้องปลดเปลื้องข้อจำกัด ปรับระบบการบริหารจัดการของรัฐร่วมกับภาคเอกชน และอาสาสมัครให้ยืดหยุ่นคล่องตัวสอดคล้องกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่จำนวนผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนถึง 3 -4 พันรายต่อวัน เป็นเวลาหลายวันติดต่อกัน
วันนี้เกิดปัญหาสถานการณ์ของการไม่ยอมรับตรวจหาเชื้อ เพราะเกรงจะไม่มีเตียงพอรับผู้ป่วย มีผู้ป่วยติดเชื้อรายที่รอลำเลียงไปหลายวันเพราะรอเตียง ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการจัดปรับระบบการบริหารจัดการให้ทันการณ์
5) จัดเพิ่มเตียง อุปกรณ์ทางการแพทย์ และที่สำคัญการบริหารบุคลากรทางการแพทย์และพยาบาลเพื่อรองรับผู้ป่วยหนักที่เพิ่มอย่างรวดเร็ว ทันการณ์
6) เร่งจัดหา rapid self test ทำการตรวจหาเชื้อให้เป็นไปได้ง่าย ประชาชนทำได้ด้วยตัวเอง และอ่านผลรวดเร็ว เพื่อให้การสืบค้น “ผู้สงสัยติดเชื้อ”เบื้องต้นทำได้เร็ว ทั่วถึง เพื่อเลือกเฉพาะรายที่ให้ผลบวก รับการตรวจยืนยันด้วย PCR อีกครั้ง เพื่อจำกัดการแพร่ระบาดได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
7) การสื่อสารของรัฐบาลที่ผ่านมาเต็มไปด้วยความสับสน ไม่โปร่งใส ส่งผลต่อความเชื่อมั่นศรัทธาของประชาชน ดังนั้นจึงต้องปรับเปลี่ยนการสื่อสารกับประชาชนที่จะต้องตรงไปตรงมา เพื่อฟื้นความน่าเชื่อถือของภาครัฐ
พรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องให้รัฐบาลหยุดนำการเมืองมานำการแพทย์ หยุดเปิดช่องทางแสวงหาประโยชน์บนความเป็นความตายของพี่น้องประชาชน วันนี้ท่านกำลังนำพาประเทศและประชาชนคนไทยไปสู่ความสิ้นหวังครั้งร้ายแรงที่สุด
รัฐบาลต้องเรียนรู้ความผิดพลาดล้มเหลว แล้วเร่งกระจายวัคซีนให้หลากหลาย ทั่วถึง รวดเร็ว และทันการณ์ ซึ่งจะเป็นบันไดขั้นแรกในการแก้ไขวิกฤต ฟื้นฟูประเทศให้กลับมามีความหวังอีกครั้ง