โฆษกเพื่อไทย จี้ประยุทธ์เลิกใช้ระบบราชการรับมือโควิด แนะ4ทางออก ระดมแพทย์ต่างจังหวัดแก้วิกฤตในกรุงเทพด่วน

นางสาวอรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง กรณีองค์การเภสัชกรรมจะนำเข้าวัคซีนโมเดอร์นาในปลายปีนี้ สะท้อนการทำงานของระบบราชการที่ล่าช้า เน้นขั้นตอนเอกสาร (Red tape ) ไม่ใช่การบริหารในสถานการณ์วิกฤต ทั้งที่การแพร่ระบาดผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งสูง เตียงไม่พอรองรับผู้ป่วย มีผู้สูงอายุทั้งในบ้านและในศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ติดเชื้อนอนรอความตายจนเสียชีวิตแล้วหลายสิบราย บุคลากรการแพทย์ได้รับวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็มติดเชื้อโควิด-19 สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้ยิ่งทำให้สังคมตั้งคำถามถึงประสิทธิภาพการบริหารจัดการของรัฐบาลและการจัดหาวัคซีนว่ามีคุณภาพ คุ้มค่ากับงบประมาณที่ใช้ไปหรือไม่ ในสภาวะวิกฤตแบบนี้เหตุใดพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในฐานะ ผอ.ศบค. ที่รวบอำนาจและยังกล้าประกาศ 120 วันเปิดประเทศ แต่ยังเพิกเฉยละเลยความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ดังนั้นสิ่งที่พลเอกประยุทธ์ต้องเร่งดำเนินการ

1.ทำลายอุปสรรคทางราชการด้วยการออกคำสั่งลดระยะเวลาขั้นตอนการนำเข้าวัคซีนทางเลือกให้รวดเร็วที่สุด

2.เข้มงวดการลักลอบข้ามแดนของแรงงานต่างชาติ จนเกิดคลัสเตอร์ใหม่ๆในกรุงเทพอย่างต่อเนื่อง

3.ตรวจหาเชื้อเชิงรุกในแหล่งชุมชนแออัด แคมป์คนงานก่อสร้าง เพื่อสกัดการระบาดให้ตรงจุด

4.ระดมสรรพกำลังแพทย์และบุคลากรการแพทย์จากต่างจังหวัดเข้ามาแก้วิกฤตการระบาดหนักในพื้นที่กรุงเทพ

“ในขณะที่หลายประเทศทยอยจองวัคซีนโนวาแวกซ์ ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า 90 % แต่ไทยกำลังจะตกขบวนรอบ 2 ยังคงสั่งซื้อซิโนแวคอยู่ร่ำไป วิกฤตสาธารณสุขไม่สามารถแก้ได้ด้วยทหารฉันใด การบริหารประเทศก็ไม่สามารถแก้ได้ด้วยพลเอกประยุทธ์ฉันนั้น” นางสาวอรุณีกล่าว