จิรายุพร้อมถูกตัดเงินเดือนสส.ช่วยโควิด แต่อย่าลืม สว.และนรม. ครม. แนะควรตัดไปซื้อวิตามินB ให้ผู้บริหารด้วยจะได้รอดตายกันทั้งปท.
จิรายุชี้ ไม่ติดใจ เหตุมีคนเสนอตัดเงิน สส 10% เพราะทุกวันนี้แจกของช่วยโควิดจนติดลบทุกเดือน โวยลุงกู้แก้โควิดเป็นล้านๆเอาไปทำขี้เกลืออะไร แนะควรตัดไปซื้อวิตามินB และเบตาแคโรทีนให้กับผู้นำและ ครม.จะได้มีปัญญาแก้ไขประเทศเพื่อคนไทยจะได้รอดตายจะดีเลิศ
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานครเขต 16 คลองสามวา พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีมีภาคเอกชนบางที่เสนอให้ตัดเงินเดือนสส 10% ไปช่วยสถานการณ์โควิดนั้น ตน ไม่ติดใจอะไรเพราะทุกวันนี้ ก็ออกฉีดพ่นยาแจกหน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ล้างมือ มอบถุงยังชีพก็ใช้เงินเดือนสส เดือนๆนึงก็ไม่เหลืออยู่แล้ว และไม่เห็นจะต้องตีฆ้องร้องป่าว อะไร ที่สำคัญไม่เคยเห็น มีคนในรัฐบาลหน้าไหนจะมาช่วยผู้แทนที่ลงพื้นที่ หรือคิดจะมาตั้งหน่วยให้การช่วยเหลือ รายอำเภอ รายตำบล
ซึ่งตนเห็นว่าถ้ามีวิธีอื่นที่ทำแล้วดีกว่านี้ควรจะทำหรือไม่เนื่องจากเงินเดือนสส.ตัดคนละ 10% ก็ แค่แปดพัน บาท รัฐบาลนักกู้แห่งลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยากู้เงินเป็น ล้านล้านบาทไปแก้โควิด ผลเป็นไง อย่างนี้ถ้าคนเป็นผู้นำเป็น คณะรัฐมนตรีไม่รู้จะเอาหน้าไปซุกที่ไหนที่ทำคนตายได้มากขนาดนี้
นายจิรายุเสนอว่า ควรจะตัดเงิน ครม ไปซื้อวิตามินB และเบตาแคโรทีน เพื่อให้ผู้นำประเทศและคณะรัฐมนตรี ให้มีปัญญาเป็นเลิศในการแก้ไขที่เป็นผลสำเร็จมากกว่า ที่จะแก้ไขปัญหาแบบเช้าบอกอย่างเย็นอย่าง ศุกร์บอกอย่างจันทร์ประกาศอีกอย่าง
นอกจากนี้ควรจะตัดเงินเดือนนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีคนละ 50% และข้าราชการตั้งแต่ปลัดกระทรวงรองปลัด อธิบดีรองอธิบดี และ สว.250 คนก็จะเป็นประโยชน์มากกว่าเพราะต้องรับผิดชอบร่วมกันในฐานะผู้บริหารประเทศ
นายจิรายุกล่าวต่อไปว่าวิธีการเสนอ ตัดเงินไม่ว่าจะหน่วยงานใดเช่นนี้หาใช่ทางออกที่เป็นปัญญาในการแก้ไขไม่ ต่อให้รัฐบาลมีเงินมากมายขนาดไหนหากรัฐบาลไม่มีปัญญา ไม่มีความรู้ในการแก้ไข ในสถานการณ์ ที่ผู้นำยังติดตลกยัง”นะจ้ะๆ”สุดท้ายก็รังแต่จะทำให้ประชาชนคนไทยตายแบบนะจ๊ะทุกวัน
ซึ่งตนคิดว่า เงินไม่ใช่ปัญหาแต่ปัญหาก็คือ คนบริหาร ควรจะมีปัญญาแก้ไขอย่างนักบริหารที่ดีมีเหตุผล รู้จักกาละ และวางระบบอย่างเป็นขั้นเป็นตอน นำพาประชาชนและประเทศชาติรอดตายได้อย่างไรมากกว่า นายจิรายุกล่าว