“เพื่อไทย” สวน “ประยุทธ์” ต้องเป็น “ผู้นำพิการทางความคิด” แน่ ที่กล้าส่งคนไร้ต้นทุนมาโต้มั่ว ชี้ ยิ่งพูดยิ่งตอกย้ำความล้มเหลว แนะ ศึกษาข้อมูลและฝึกอธิบายให้รู้เรื่องก่อนออกมาโต้

นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ ได้ชี้ให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ได้เห็นถึงความล้มเหลวในการบริหารประเทศ สะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งได้สร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก จนประชาชนสาปแช่งก่นด่ากันทั้งเมือง แต่พล.อ.ประยุทธ์ กลับไม่รู้สึก หลายปัญหาที่เกิดขึ้นได้มีการเตือนมาหลายหนและเตือนเป็นเวลานานแล้ว แต่พล.อ.ประยุทธ์ กลับคิดไม่เป็นและไม่ทำ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้กลายเป็น “ผู้นำพิการทางความคิด” ไปแล้ว

“ซึ่งแทนที่พล.อ.ประยุทธ์ น่าจะนำ 6 คำถามที่นายพิชัย ถามไปปรับปรุงแก้ไขหาทางออกให้กับประเทศ ซึ่งเชื่อว่า 6 คำถามนี้เป็นเรื่องที่โดนใจประชาชนอย่างมาก แต่พลเอกประยุทธ์ กลับส่งคนไร้ต้นทุนคนเดิมออกมาโต้แบบหุ่นยนต์ใส่แบตเตอรี่แบบเดิม หาสาระไม่ได้ จับความไม่เจอ ยิ่งเท่ากับตอกย้ำ “ผู้นำพิการทางความคิด” มากยิ่งขึ้น สมกับที่มีคนเปรียบเปรยว่า เจ้าของวัวนิสัยเป็นอย่างไรวัวก็จะนิสัยเป็นอย่างนั้น ประชาชนเขาอยากทราบว่าทำไมถึงไม่แจ้งให้ประชาชนทราบก่อนปิดแบบเข้มงวดที่ไม่ต่างจากล็อกดาวน์ เพื่อที่เขาจะได้เตรียมตัว ไม่รู้ทำไมถึงต้องเป็นความลับ ช่วงเย็นมีข่าวหลุดเรื่องการล็อกดาวน์ออกมา ท่านก็ออกมาปฏิเสธบอกไม่ล็อก ตกเกือบย่ำรุ่งก็ประกาศตอนคนนอนหลับว่าล็อกดาวน์แคมป์คนงานแต่พาลมาห้ามทานอาหารในร้าน ประเภทอยู่ดีๆ คิดอะไรไม่ออกแจ็คพอตมาซวยที่ร้านอาหารทุกคลัสเตอร์ ขนาดนี้ท่านก็บอกไม่ได้ล็อกดาวน์แต่ดูแลเข้มงวดเป็นพิเศษมันจะต่างอะไรกับน้ำท่วมกรุงเทพแล้วมีคนบอกไม่ใช่น้ำท่วมมันคือน้ำรอระบาย วาทกรรมสวยหรูแต่สร้างผลกระทบซ้ำเติมความลำบากอย่างมาก

อีกทั้งการเยียวยาการปิดก็ยังไม่เพียงพอกับความเดือดร้อนของประชาชน ที่อยู่กับสภาวะเศรษฐกิจที่แย่มาเป็นปีแล้ว จนคนทนไม่ไหวอารยขัดขืนไม่สนคำสั่งจะเปิดร้านอาหารจน แฮ็ทแท็ก #กูจะเปิดมึงจะทำไม ขึ้นอันดับหนึ่งเทรนด์ทวิตเตอร์ บ่งบอกถึงคำสั่งของพล.อ.ประยุทธ์ เหมือนเสือกระดาษไม่น่ากลัว ความลำบากจากการเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแบบไร้แผนทำให้คนทนไม่ไหว โควิดก็กลัวแต่ความอดอยากกับภาระหนี้สินทำคนหลังชนฝาถ้าลุกฮือทั้งประเทศเรื่องใหญ่มาก แล้วถ้าพล.อ.ประยุทธ์ จะแค่ลดดอกเบี้ยเหลือ 0% แต่ไม่ให้เงินทุนเพิ่ม ธุรกิจจะเอาเงินที่ไหนมาฟื้นกิจการ ยิ่งเป็นความพิการทางความคิดเพิ่มเติมอีก มีแต่พัง พัง และพัง แถมไม่ได้ตอบเลยว่า ตกลงสัญญาประชาคมที่ว่า 120 วัน เปิดประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ จะเปิดประเทศได้ไหม ขอให้ตอบมาตรงๆ ท่านไม่ได้ตอบอะไรเลย ตกลงวัคซีนจะมาเมื่อไหร่ วัคซีนที่ใช้อยู่จะป้องกันไวรัสกลายพันธุ์ได้ไหม ทำไมไม่ซื้อไฟเซอร์และโมเดอร์นามากๆ ทั้งที่ราคาพอๆ กัน แต่ประสิทธิภาพดีกว่า สถานการณ์วิกฤติหนักคนป่วยล้นเตียงขนาดอดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก พร้อมทั้งภรรยาต้องมาเสียชีวิตเพราะโควิดที่กลายพันธุ์ คนฉีดวัคซีนยังต้องเสียชีวิตรายวันแก้ปัญหาคุณภาพวัคซีนไม่ได้และถ้าเปิดประเทศไม่ได้จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างไร แทนที่จะตอบแบบให้คนพอจะมีความหวังกลายเป็น ถามวัวตอบควาย ตอบซึ่งไม่ตรงกับคำถามที่ประชาชนอยากรู้ ยิ่งพูดยิ่งแสดงถึงความล้มเหลวเละเทะของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ หนักไปอีก

“ดังนั้นอยากให้หุ่นยนต์ไปอัพเกรดใส่โปรแกรมใหม่ อ่านคำถามให้เข้าใจ คิด ไตร่ตรองให้รอบคอบ ตั้งสติและตอบให้ตรงกับสิ่งที่ประชาชนอยากทราบ ถ้าอ่านไม่เข้าใจก็อย่ามาอธิบายมั่ว ต้องฝึกการอธิบายให้เข้าใจด้วย เพราะการโต้ตอบแทนพล.อ.ประยุทธ์ เท่ากับเป็นการแสดงภูมิปัญญาของพล.อ.ประยุทธ์ เองด้วย เท่ากับว่าท่านยอมรับกับการเป็นผู้นำพิการทางความคิดจริงๆ ขนาดนายสมหมาย ภาษี อดีตขุนคลังคนข้างกายพล.อ.ประยุทธ์ ในยุคคสช. ยังต้องมากระแทกซ้ำอีกรอบว่า ลาออกไปเถอะนะจ๊ะ ท่านคะวิกฤติครั้งนี้นอกจากประชาชนต้องเผชิญกับโรคระบาดที่น่ากลัวแล้ว เขายังต้องตกอยู่ในสภาพตกงานอดอยากแร้นแค้น ขาดวัคซีน ป่วย ไร้เตียง มีวัคซีนก็ยังต้องเสี่ยงกับความตาย ถ้าประชาชนต้องอยู่กับวัคซีนที่ดีที่สุดคือวัคซีนที่มีอยู่ และรัฐบาลที่ดีที่สุดคือรัฐบาลที่มีอยู่ มันก็ไม่ต่างกับการปล่อยให้ประชาชนตายอย่างเลือดเย็นที่สุด” นางสาวตรีชฎากล่าว