เปิดใจครั้งแรก! หลัง ส.ส.เพื่อไทยใจสู้เกิดลิ่มเลือดอุดตันระหว่างรอลงมติ รธน. “พีระเพชร” จี้ ศบค.หาวัคซีนคุณภาพดี ผลข้างเคียงต่ำ คุ้มค่าภาษีประชาชน
นายพีระเพชร ศิริกุล ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงอาการภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลังได้รับวัคซีนแอสตราเซเนการะหว่างรอลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านมาจนเกิดไวรัลในโซเชียลมีเดียว่า หลังได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เมื่อวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา แม้มีอาการอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ครั่นเนื้อครั่นตัว ประกอบกับไม่มีโรคประจำตัว จึงเข้าใจว่าเป็นอาการข้างเคียงปกติหลังฉีดวัคซีน จนผ่านมาแล้ว 17 วัน ระหว่างรอลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในสภา เมื่อวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา เริ่มมีอาการเจ็บหน้าอกผิดปกติ จึงเข้ารับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นจากแพทย์พยาบาลสภา และถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล จึงทราบว่าเกิดอาการลิ่มเลือดอุดตัน ซึ่งได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที จากบทเรียนนี้ ตนอยากให้เป็นกรณีตัวอย่างให้รัฐบาล โดย ศบค.สื่อสารกับประชาชนให้ชัดเจนขึ้นว่า ผลข้างเคียงหลังจากรับวัคซีนเข็มแรก สามารถเกิดขึ้นต่อเนื่องได้ถึง 30 วัน และควรให้คำแนะนำในการสังเกตอาการและการปฏิบัติตนอย่างถูกต้องเมื่อเกิดเหตุในลักษณะใกล้เคียงกันนี้ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อช่วยลดภาระการเข้ารับการรักษาในสถานการณ์ที่โรงพยาบาลเตียงเต็มในขณะนี้ได้
“วัคซีนคือเรื่องจำเป็น เพราะเป็นทางออกของประเทศ พลเอกประยุทธ์ไม่บริสุทธิ์ใจ และไม่จริงใจกับประชาชน การจัดหาวัคซีนนอกจากจะช้า ไม่ครอบคลุม ไม่ทั่วถึง ไม่หลากหลายแล้ว ยังเลือกนำเข้าวัคซีนคุณภาพไม่ดี แต่จ่ายด้วยเงินภาษีราคาสูง มาให้กับพี่น้องประชาชน บางคนฉีดแล้วผลข้างเคียงเยอะ บางคนฉีดครบ 2 เข็มแล้วภูมิคุ้มกันยังไม่ขึ้น หลายคนรับวัคซีนรัฐบาลประยุทธ์แล้วยังติดโรค บางคนในรัฐบาลเอง ยังไม่กล้ารับวัคซีนที่ตนเองนำเข้ามา พวกท่านไม่เห็นคุณค่าชีวิตของพี่น้องคนไทย” นายพีระเพชร กล่าว