“ยุทธพงศ์” เตรียมเรียกดูสัญญาจัดซื้อวัคซีนของภาครัฐ ตั้งข้อสงสัยวัคซีนมีปัญหาคุณภาพ แต่ยังซื้อแล้วซื้ออีก

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวถึงสถานการณ์การระบาดเชื้อโควิด-19 ในขณะนี้ว่าประเทศไทยขณะนี้ประเทศไทยมียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่สะสมในรอบสัปดาห์สูงจนน่าเป็นห่วง และในวันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ เพิ่มขึ้น 9,539 คน มีผู้เสียชีวิต 86 คน ซึ่งยิ่งเป็นการตอกย้ำว่ารัฐบาลควรจัดลำดับความสำคัญของการแก้ไขปัญหาและการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่เพื่อบรรเทาสถานการณ์ให้คลี่คลายได้โดยเร็ว แต่ตลอดสัปดาห์ ก็ดูเหมือนว่ารัฐบาลจะมิได้ให้ความสนใจในการแก้ปัญหา โดยถึงแม้จะออกมาตรการล็อกดาวน์ เคอร์หิว ยกระดังสูงสุดเข้มข้นตามที่ทราบกันทั่ว แต่กลายเป็นว่าทำให้ประชาชนในจังหวัดควบคุมสูงสุดตระหนกตกใจและแห่เดินทางกันกลับภูมิลำเนาเหมือนที่สัปดาห์ก่อนประกาศปิดแคมป์คนงานอย่างกระทันหันจนทำให้คนงานก่อสร้างที่สุ่มเสี่ยงมีเชื้อโควิด พาเชื้อกลับไปภูมิลำเนากัน นี่ก็เช่นกัน เมื่อประกาศจะจำกัดการเดินทางขั้นสูงสุดและเคอร์ฟิว ปรากฏชาวบ้านต่างจังหวัดแห่กันกลับภูมิลำเนา และพาเอาเชื้อโควิดกระจายออกไปจากกรุงเทพ จนทำให้หมอพยาบาล และโรงพยาบาลในต่างจังหวัดทำงานหนักมากขึ้น โรงพยาบาลซึ่งมีเตียงไม่พอ ต้องตั้งโรงพยาบาลสนามแล้วก็ยังไม่พอ จนผมต้องยกสำนักงานศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทยจังหวัดมหาสารคามให้ทำโรงพยาบาลสนาม แต่พอยกให้ทำราชการก็บอกว่า ไม่มีงบประมาณ พวกผมซึ่งใช้เงินส่วนตัวช่วยเหลือพี่น้องมาตั้งแต่ปีก่อน ก็สงสัยกันว่า แล้วงบประมาณโควิดที่ขอไป เงินกู้ที่ขอไปสองรอบ 1 ล้านล้านบาท กับ 5 แสนล้านบาทหายไปไหน ทำไมไม่จัดสรรมาใช้ตั้งโรงพยาบาลสนามให้ประชาชน กลับต้องมาเบียดเบียนประชาชนให้ช่วยกันบริจาค
.
นายยุทะพงศ์ กล่าวต่อว่า ประเทศเรามีเงินจำกัด รัฐบาลควรใช้เงินให้เหมาะสมกับสถานการณ์ แต่นี่ดูเหมือนว่าจะไม่ เพราะล่าสุด ในที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ ศึกษาร่างงบประมาณในวาระ 2 กลับพบว่า รัฐบาลโดยกองทัพเรือ ตั้งงบประมาณซื้อเรือดำน้ำ 3 ลำ ย้ำว่า 3 ลำ ขอตั้งงบประมาณมาจำนวน 3.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งถ้ารัฐบาลใช้เงินเป็น ควรนำเงินนี้ไปซื้อวัคซีนยี่ห้อดีๆ เงิน 3.4 หมื่นล้านสามารถซื้อวัคซีนให้คนไทยทั่วประเทศได้ 200 ล้านโดส หมายถึงฉีดให้คนไทยได้คนละ 3 โดส โดยไม่ต้องซื้อเรือดำน้ำ ถ้ารัฐบาลที่คิดถึงประชาชนจะทำแบบนี้ จึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถอนเรื่องงบประมาณเรือดำน้ำออกจากงบประมาณปี 65 โดยที่ไม่ต้องให้กรรมาธิการมาแปรตัดงบประมาณกันเลย
.
นอกจากนี้ ประชาชนยังสงสัยเรื่องคุณภาพของวัคซีนที่รัฐบาลจัดซื้อและฉีดให้กับประชาชน เพราะมีตัวอย่างสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรท่านหนึ่ง ฉีดวัคซีนยี่ห้อดังกล่าวสองครั้งแล้ว ตั้งแต่เดือนก่อน แต่ตอนนี้กลับเข้าข่ายติดโควิด ซึ่งยังมีประชาชนอีกจำนวนมากที่มีเหตุการณ์คล้ายๆแบบนี้ ดังนั้น ในฐานะกรรมาธิการฯ จะขอเรียกดูสัญญาจัดซื้อวัคซีนว่ามีข้อสงสัยอะไรบ้าง และขอตรวจติดตามการใช้งบเงินกู้ที่เกี่ยวกับสาธารณสุขเมื่อปีที่แล้ว 4.5 หมื่นล้านบาท และของปีนี้ 3 หมื่นล้านบาทว่าใช้ไปถึงไหน ทำไมมีแต่กู้เงินแต่ราชการกลับไม่มีเงิน ต้องมาขอรับบริจาคจากประชาชน
.
“สงสัยว่าทำไมรัฐบาลไม่มีเงินจากงบประมาณให้เขาไปตั้งโรงพยาบาลสนาม ต้องรับบริจาคจากชาวบ้านที่ยากจน แล้วเงินกู้โควิดอีก 1.5 ล้านล้านบาทเอาไปทำอะไร อยู่ไหน ใช้จ่ายอะไร ทำไมได้วัคซีนที่มีข้อสงสัยเรื่องคุณภาพ พอมีข่าวว่าวัคซีนไม่ดี แทนที่จะซื้อยี่ห้อดีๆ กลับซื้อยี่ห้อที่มีปัญหากลับเข้ามาอีก มันมีอะไรกับวัคซีนยี่ห้อนี้ ซึ่งในฐานะ กมธ. จะเรียกดูสัญญาจัดซื้อวัคซีนว่ามันผิดปกติตรงไหนต่อไป” นายยุทธพงศ์กล่าว.