“เพื่อไทย” ชี้ “ประยุทธ์” ล็อกดาวน์ ทำธุรกิจท่องเที่ยวสิ้นหวัง ห่วง เปิดประเทศ 120 วันทำไม่ได้แล้ว ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ล้มเหลว แนะ ตั้งหลักความคิดให้ดี ก่อนธุรกิจท่องเที่ยวพังกันหมด

นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส. เชียงใหม่ รองเลขาธิการ คณะทำงานเศรษฐกิจ และประธานอนุกรรมการนโยบายด้านการท่องเที่ยวพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าตามที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว. กลาโหม และ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ จำเป็นต้องประกาศล็อกดาวน์ ซึ่งเป็นผลมาจากความล้มเหลวในการควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด โดยเฉพาะความล้มเหลวในการบริหารจัดการวัคซีน ที่ยังมีความสับสนอย่างมาก การที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศจะฉีดวัคซีนแบบผสมระหว่างซิโนแวคและแอสต้าเซเนก้าให้กับบุคคลากรทางการแพทย์ เท่ากับยอมรับว่าวัคซีนซิโนแวคมีคุณภาพต่ำ จึงไม่เข้าใจว่าทั้งๆ ที่ทราบ แต่ทำไมยังดื้อดึงที่จะซื้อวัคซีนซิโนแวคกันอีกเป็นจำนวนมาก โดยล่าสุดสั่งซื้ออีก 10.9 ล้านโดส จำนวนเงิน 6.1 พันล้านบาท

นอกจากนี้ องค์กรอนามัยโลก (WHO) ได้ออกมาแสดงความกังวลกับการฉีดวัคซีนแบบผสม ซึ่งอาจจะมีผลกระทบที่ยังไม่ทราบอีกมาก เลยยิ่งสับสนมากยิ่งขึ้น ทำให้สงสัยว่าทำไมไม่สั่งวัคซีนชนิด mRNA (messenger Ribonucleic Acid) เช่น ไฟเซอร์ หรือ โมเดอร์นา ในจำนวน 60 ล้านโดส ที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถป้องกันไวรัสกลายพันธุ์ได้ดี ราคาก็ไม่ได้แตกต่างกับวัคซีนซิโนแวค ตามคำแนะนำของพรรคเพี่อไทย ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่ามีเหตุผลหรือมีผลประโยชน์ใดแอบแฝงถึงต้องยืนยันจะต้องซื้อวัคซีนซิโนแวคทั้งที่ด้อยคุณภาพ โดยสมาคมทนายความกำลังจะยื่นฟ้องพลเอกประยุทธ์ และรัฐบาลที่สั่งวัคซีนคุณภาพต่ำมาให้ประชาชนซึ่งเป็นการกระทำผิดตามรัฐธรรมนูญ

ทั้งนี้ การที่พลเอกประยุทธ์ สั่งประกาศล็อกดาวน์ได้ส่งผลกระทบกับธุรกิจท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก อีกทั้งถึงแม้ล็อกดาวน์ก็จะยังไม่สามารถควบคุมการระบาดได้ เพราะยังไม่มีการตรวจเชื้อและคัดแยกผู้ติดเชื้อได้อย่างทั่วถึง ซ้ำยังไม่มีวัคซีนคุณภาพมากระจายฉีดให้ประชาชนได้เพียงพอเพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ เท่ากับเป็นการทำลายความหวังของธุรกิจท่องเที่ยวที่อยากเห็นแสงสว่างในปลายถ้ำที่จะฟื้นธุรกิจได้อย่างหมดสิ้น และการเปิดประเทศใน 120 วันคงเป็นไปไม่ได้แล้ว และยังไม่รู้เลยว่าจะเปิดประเทศได้เมื่อไหร่ ถ้าการติดเชื้อยังเพิ่มขึ้นไม่หยุด ซึ่งพรรคเพื่อไทยเคยทักท้วงแล้วว่า 120 วันจะเปิดประเทศไม่ได้แต่พลเอกประยุทธ์ ไม่ฟังแถมยังส่งคนมาตอบโต้มั่วๆ ทำให้ปิดกั้นการรับรู้ของพลเอกประยุทธ์ เองถึงได้ล้มเหลวในทุกเรื่อง

นอกจากนี้ ภูเก็ตแซนบอกซ์ ที่เปิดตัวด้วยการที่พลเอกประยุทธ์ เองต้องถูกกักตัว 14 วัน จากการสัมผัสผู้ติดเชื้อ และยังปรากฎข่าวว่ามีนักท่องเที่ยวที่ติดเชื้อไวรัสเข้ามาอีกเรื่อยๆ ทำให้ภูเก็ตแซนด์บอกซ์ทำท่าจะไปไม่รอด นักท่องเที่ยวยกเลิกการจอง ขอกลับก่อน และนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาใหม่ก็มีจำนวนไม่มากนัก แนวโน้มน่าจะล้มเหลวอีกเช่นกัน

ดังนั้นจะเห็นได้ว่าพลเอกประยุทธ์ ไม่ได้มีการวางแผนให้ดีในทุกเรื่อง ขาดวิธีคิดและขาดการวางแผนที่ดี หรือ เรียกได้ว่าเป็นผู้นำที่พิการทางความคิดอย่างแท้จริง จึงทำให้ทุกโครงการล้มเหลวหมด และทำลายความเชื่อมั่นจนไม่สามารถจะฟื้นกลับมาได้แล้ว เป็นปราสาททรายที่ถูกน้ำทะเลพัดพังทลายหมดแล้ว ยิ่งทำยิ่งเละ การท่องเที่ยวของไทยยิ่งหมดหวัง หากพลเอกประยุทธ์จะสำนึกได้ ก็ต้องคิดได้แล้วว่าพลเอกประยุทธ์ จะไม่สามารถรื้อฟื้นความมั่นใจและความหวังให้กับประเทศนี้ได้อีกต่อไปแล้ว และควรจะต้องออกไปได้แล้ว เพื่อให้ประเทศไทยจะได้เดินหน้าต่อไปได้อีกหน