นายนพพล เหลืองทองนารา ส.ส.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า หลายปีที่ผ่านมาเกษตรกรผู้ปลูกข้าวทุกข์หนักมาก เพราะราคาข้าวตกต่ำทุกปีตั้งแต่หลังการรัฐประหารราคาข้าวไม่เกิน 9,000 บาทต่อตัน ล่าสุดโรงสีรับซื้อข้าวในราคา 7,000 บาทต่อตันเท่านั้น ทั้งนี้เพราะรัฐบาลโดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ปล่อยให้นายทุนเป็นผู้กำหนดราคาข้าว เมื่อเป็นเช่นนี้จึงเป็นผลร้ายกับเกษตรกรเพราะไม่มีนายทุนคนไทยที่จะไม่หาโอกาสกดราคาข้าว

ในขณะเดียวกันต้นทุนการทำนาเพิ่มสูงขึ้น เพราะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปล่อยให้พ่อค้าขึ้นราคาปุ๋ยและยา ขึ้นตามอำเภอใจ ดังนั้นภาระจึงไปตกหนักกับเกษตรกร ต้นทุนการปลูกข้าวสูงขึ้น ปัจจุบันต้นทุนปลูกข้าว 1 ตัน ที่ 6,500-6,700 บาทไม่รวมค่าขนส่ง แต่ราคาขายข้าวอยู่ที่ 7,000 บาท สร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้กับเกษตรกรมาก ชาวนาแม้ขายได้ก็ขาดทุนตั้งแต่ขาย แต่ก็ต้องขายเพราะไม่มีรายได้อื่น รัฐบาลออกนโยบายที่จะยกระดับราคาสินค้าเกษตรจึงเป็นการโกหกประชาชนทั้งประเทศ

นายนพพล กล่าวด้วยว่า ประชาชนต้องทนทุกข์กับรัฐบาลนี้มายาวนาน ตลอด 7 ปี ของพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับนายทุนและเจ้าสัวมากกว่าประชาชน ผลที่ออกมาคือนายทุนรวยแต่เกษตรกรยากจนลงทุกวัน ทั้งๆที่รัฐบาลมีหน้าที่ในการทำให้ประชาชนทุกคนมีความมั่นคงในอาชีพ แต่รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับความมั่นคงของนายทุนมากกว่าประชาชน
                                                         

ประชาชนใช้ชีวิตลำบากมาก โควิดก็กลัว อยากฉีดวัคซีนก็ไม่ได้ เพราะไม่มีวัคซีนจะฉีด แม้จะกลัวผลที่ตามมาแต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้ฉีดเลย การทำมาหากินก็ลำบากทุกอาชีพไร้ทางออก คนฆ่าตัวตายรายวัน รัฐบาลก็ไร้จิตสำนึก ไม่สนใจใยดีประชาชน สุดท้ายชาวบ้านรอวันตายอย่างเดียว บริหารแบบนี้อย่าบริหารเลยครับ เพราะยิ่งอยู่คนยิ่งแย่ ลาออกไปตอนนี้จะเป็นบุญของประเทศและประชาชนมาก”นายนพพลกล่าว