“เพื่อไทย” ชี้ “พี่โทนี่” สอนมวย “ประยุทธ์” จนหมดท่า เชื่อ ยิ่งรัฐบาลล้มเหลว กระแสเรียกหาพี่โทนี่จะยิ่งแรงขึ้น แนะ ซูมไปถามเผื่อจะฉลาดขึ้นบ้าง

วันที่ 15 กรกฎาคม 2564 นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ผลพวงจาก ‘ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์’ ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บรรจงเปิดพร้อมคณะรัฐมนตรี อันเป็นเหตุให้พบกับนายวีรศักดิ์ พิษณุวงษ์ ประธานหอการค้าจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งตรวจพบเขื้อโควิดจนใครที่ไปร่วมงานต่างพากันตื่นตระหนกกักตัวเสียการเสียงานหลายคน ในยามวิกฤติประเทศพล.อ.ประยุทธ์ต้องกลายเป็นนายกรัฐมนตรีกระดาษ ออกไปไหนไม่ได้ต้องกักตัวบัญชาการทางลับ ปรากฏตัวไม่ได้ วันนี้ท่านพร้อมสำหรับการเปิดโครงการสมุย พลัส โมเดลแล้วจริงหรือ

“ท่านเร่งรีบทำการเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศโดยไม่กักตัว แต่สำหรับคนในประเทศยังมีผู้ติดเชื้อมากมายเพิ่มขึ้นทุกวัน ขาดวัคซีนคุณภาพสูงฉีดอย่างต่อเนื่อง คนลงทะเบียนไทยรวมใจอีกจำนวนมากยังไม่รู้ชะตากรรมว่าจะได้ฉีดวัคซีนอีกเมื่อไหร่ ท่านเร่งเปิดเมืองท่องเที่ยวบางพื้นที่ ขณะที่เมืองหลวงของประเทศและอีกหลายจังหวัดล็อกดาวน์เพื่อควบคุมเชื้อโรค ทำคนงงทั้งโลก

“จนในที่สุด ประเทศไทยก็มาถึงจุดที่มีนายกรัฐมนตรี 2 คน โดยคนหนึ่งอยู่ทำเนียบรัฐบาล แต่ตอนนี้ เวิร์กฟอร์มโฮมอยู่ที่บ้านพักในค่ายทหาร ร.1 รอ. ส่วนอีกคนหนึ่งนั้นอยู่ที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ถึงขั้นมีกระแสแรงในโลกโซเชี่ยลเรียกร้องให้กลับไทย มาไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีทางโซเชี่ยลก็ยอม และถ้าฟังพี่โทนี่ในคลับเฮ้าส์จะได้เห็นวิถีแห่งผู้นำในการแก้วิกฤตินี้ได้ พี่โทนี่บอกว่า การล็อคดาวน์ทุกครั้งจะมีคนเจ็บ คือคนที่ทำมาหากินไม่ได้ พอเจ็บแล้วปกติมันต้องจบ แต่ดูแล้วไม่จบ เพราะรัฐบาลไม่ได้เตรียมพร้อมอะไรเลย “พี่โทนี่” บอกเสียงดังและฟังชัดว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นนายกฯ วันนี้ ขอแค่พล.อ.ประยุทธ์ติดต่อขอปรึกษาจะให้ Work from Dubai ทางซูมก็พร้อมช่วย แนะต้องพยายามแก้ให้ เจ็บแล้วจบ หัวใจสำคัญอยู่ที่การตรวจ รัฐบาลต้องทุ่มเรื่องการตรวจให้มากกว่านี้ และ ทุ่มเรื่องวัคซีนอย่าปล่อยให้ประชาชนต้องอยู่ในภาวะหวาดกลัวเพราะขาดวัคซีน

“เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ ออกมาเตือนว่า ความผิดพลาดในการบริหารจัดการเรื่องวัคซีน ทำให้เกิดการระบาดของไวรัสโควิดอย่างหนัก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จึงต้องประกาศล็อกดาวน์ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างหนัก ถึงขั้นหมดหวังแล้วถ้ายังไม่สามารถควบคุมการระบาดของไวรัสโควิดได้เศรษฐกิจมีแต่จะทรุดลงไม่มีหนทางจะดีขึ้นได้ การล็อกดาวน์จะทำให้รัฐบาลต้องกู้เงินเพิ่มเพื่อเยียวยา ซึ่งจะทำให้หนี้สาธารณะพุ่งสูงขึ้นทะลุเกินเพดานไปอีกมาก อีกทั้งจะทำให้การจัดเก็บรายได้ที่ลดลงพลาดเป้าอยู่แล้วยิ่งลดลงไปอีก สัญญาณอันตรายของคนไทยกำลังร้องเตือนอย่างรุนแรง และธนาคารแห่งประเทศไทยก็ออกมาเตือนเช่นกัน สอดรับกับสำนักข่าวนิเคอิ Nikkei ได้เผยแพร่ผลการจัดอันดับด้วยดัชนีการฟื้นตัวของโควิด-19 (COVID-19 Recovery Index) ของ 120 ประเทศทั่วโลก ไทยอยู่ในลำดับรั้งท้าย โลก-อาเซียน อันดับ 118 ใน 120 ล้วนมาจากการบริหารจัดการการติดเขื้อของประชากรกับการกระจายวัคซีน

“พล.อ.ประยุทธ์แก้ปัญหาโควิดในประเทศแบบลิงแก้แห พอจำนวนผู้ป่วยคุมไม่ได้ ไม่เคยแก้ต้นเหตุแก้ที่ปลายเหตุทุกครั้ง คนซวยคือ ประชาชน ล็อกดาวน์ทำคนขาดรายได้หนัก ปิดแคมป์คนงานวันนี้คนยังไม่ได้เงินเยียวยาอยู่อย่างลำบาก ปิดหนทางทุกอย่าง ค่าน้ำค่ายังไม่มีเงินจ่าย เชื่อว่าล็อกดาวน์พื้นที่สีแดง 14 วันนอกจากจะลดจำนวนคนป่วยไม่ได้ ยิ่งทำให้ประชาชนสาหัส ต้องล็อกดาวน์อีกกี่ครั้ง ต้องกู้อีกเท่าไหร่ถึงจะพอเยียวยาความทุกข์ร้อนประชาชน โควิดต้องอยู่กับคนไทยอีกนานแสนนาน แต่ประชาชนต้องอยู่ในสภาพหมดตัวไม่มีจะกิน ตัวท่านไม่ถนัดงานไต้ก๋งเรือ ดันมาคุมเรือ มาคุมกำลังพลในเรือ เอาพ่อค้ามาขับเรือ แถมในเรือมีแต่ช่างปะผุเรือ แก้ผ้าเอาหน้ารอด สภาพเรือกำลังจะอัปปาง เรือรั่วทั้งลำยังฝืนขับไปต่อ มองประชาชนตายแบบรายวันไร้หนทางยื้อชีวิตจากพิษโควิดกับพิษเศรษฐกิจ กองเชียร์ก็หน้ามืดเชียร์ ทางรอดตายไม่มี ไม่ตายเพราะโควิด ก็อดตาย สงสารประชาชนเถอะค่ะ สมัยพี่โทนี่คนมีทองใส่ มีบ้านมีรถ มีทุกอย่าง ยุคพล.ประยุทธ์อยู่บริหารประเทศมา 7 ปี คนขายทอง ขายบ้านขายรถ ขายสมบัติทุกอย่าง โดนยึดบ้าน ยึดรถ มรสุมโรคร้าย ถ้าท่านคิดได้ สละเรือเถอะค่ะ ก่อนคนตายเกลื่อนทั้งประเทศ” นางสาวตรีชฎา กล่าวทิ้งท้าย