“วรสิทธิ์”ชี้“บิ๊กตู่”แก้โควิดพลาดทำเศรษฐกิจไทยโตช้าสุด อัดมาตรการแบงก์ชาติหวังช่วยแบงก์พาณิชย์มากกว่าช่วยผู้ประกอบการ
นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ แบงก์ชาติ ที่อ้างว่าเป็นมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ ด้วยการพักชำระหนี้เป็นระยะเวลา 2 เดือน โดยการพักชำระเงินต้น และดอกเบี้ยให้แก่ลูกหนี้ SMEs และรายย่อย และให้กับลูกหนี้ที่ต้องปิดกิจการจากมาตรการของทางการ เริ่มตั้งแต่งวดการชำระหนี้เดือนก.ค. 64 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม มาตรการที่ออกมาเป็นเพียงการเลื่อนการชำระออกไปเท่านั้น
จากการวิเคราะห์มาตรการที่ออกมา พบว่า เป็นการหาทางช่วยแบงก์พาณิชย์มากกว่า ไม่ได้จริงใจช่วยผู้ประกอบการ รวมทั้งออกมาล่าช้ามาก ไม่ตรงกลุ่มเป้าหมาย ที่ผ่านมาผู้ประกอบการพยายามที่จะฟื้นตัว แต่มาตรการรัฐที่รัฐออกมาหลายครั้ง ทำให้ผู้ประกอบการหมดแรงที่จะยืนต่อ บางรายต้องหยุดกิจการมานานกว่า 1-2 ปี หลายรายล้มละลายไปแล้ว ที่เหลือก็กำลังจะจมน้ำเพราะไม่มีรายได้เข้ามาจุนเจือ นอกจากนี้มาตรการที่แบงก์ชาติออกมา เป็นเพียงการให้ผู้ประกอบการนำเงินก้อนสุดท้ายออกมาสู้เพื่อหารายได้มาจ่ายให้กับธนาคารเจ้าหนี้ต่อไป ดังนั้นจึงเป็นการหาประโยชน์กับลูกหนี้ได้เช่นเดิม
นายวรสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ในความเป็นจริง รัฐบาลต้องเร่งแก้ปัญหาการระบาดของไวรัส การเร่งฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้มากที่สุด เป็นทางฟื้นเศรษกิจที่ดีที่สุด จากการแก้ปัญหาวิกฤตไวรัสโควิดที่ผิดพลาดของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นอกจากไม่ช่วยผู้ประกอบการแล้วยังทำลายระบบเศรษฐกิจไทยอย่างรุนแรงที่สุด ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยท้อถอย ระบบเศรษฐกิจหยุดนิ่ง การค้าการลงทุน ติดลบ รัฐบาลกู้เงินมากถึง 1.5 ล้านล้านบาท อ้างว่าเป็นเงินช่วยเหลือผู้ประกอบการ แต่ ผู้ประกอบการเข้าไม่ถึงมาตรการช่วยเหลือ หลายคนต้องยอมรับภาระอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
พลเอกประยุทธ์ ไม่มีความจริงใจที่จะกู้เศรษฐกิจอย่างจริงจัง ทั้งนี้สถาบันการเงินประเมินว่า ประเทศไทยจะเริ่มฟื้นตัวในปี 2566 ดัง เวลานั้นคงมีผู้ประกอบการไม่กี่รายที่จะยืนอยู่ได้ หากยังแก้ปัญหาแบบที่ผ่านมา