วิชาญ” วอนภาครัฐ ทบทวนเรื่องยกเลิกสิทธิหลักประกันสุขภาพใน 22 โรงพยาบาลเอกชน ให้เห็นใจหญิงท้องแก่ใกล้คลอดเดือดร้อนหนัก
นายวิชาญ มีนชัยนันท์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขและประธานภาคกรุงเทพ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้หญิงมีครรภ์ที่ฝากครรภ์ไว้กับโรงพยาบาลที่ใช้สิทธิบัตรทองใน 22 โรงพยาบาลเอกชนที่ถูก สปสช.ยกเลิกสัญญาในส่วนของส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค มีผลเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งการยกเลิกของ สปสช.นี้ มีผลสองประการ ประการแรก คือยกเลิกหน่วยบริการปฐมภูมิที่ส่งตัวคนไข้ให้โรงพยาบาล หรือที่เรียกกันว่าคลินิกอบอุ่น และอีกประการคือการที่โรงพยาบาลถูกยกเลิกสัญญาดูแลหญิงตั้งครรภ์เดิมก่อนคลอด โดยขณะนี้ส่งผลกระทบให้หญิงมีครรภ์เดือดร้อน ต้องหาโรงพยาบาลใหม่ฝากครรภ์ และวุ่นวายที่ต้องทำเอกสารย้ายสิทธิเปลี่ยนโรงพยาบาล เสียเวลาค่าเดินทาง
นายวิชาญ กล่าวต่อว่าเมื่อ คลินิกต้องส่งไปโรงพยาบาลแห่งใหม่ (โรงพยาบาลภาครัฐ) ซึ่งส่งไปแล้วได้รับการปฏิเสธ เพราะอ้างว่าไม่สามารถรับได้แล้ว เพราะโรงพยาบาลเต็มจากผู้ป่วยโควิดจำนวนมาก จึงทำให้ผู้รับบริการต้องไปหาโรงพยาบาลที่ไกลออกไปและอาจต้องจ่ายเป็นเงินสดสร้างความเดือดร้อนเพราะเศรษฐกิจตอนนี้กำลังยากลำบาก
“ดังนั้น การที่ผู้มีอำนาจภาครัฐตัดสินใจยกเลิกการให้บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ที่ส่งผลให้ประชาชนเดือดร้อนอีกทั้งยังไปเพิ่มภาระงานให้แพทย์ พยาบาลในโรงพยาบาลที่ต้องรับตัวผู้ป่วยที่ส่งต่อมา จึงเห็นว่าควรมีการทบทวนการยกเลิกในส่วนนี้ใหม่เพื่อช่วยเหลือพี่น้องที่กำลังเดือดร้อน และในส่วนของสัญญาโรงพยาบาลเอกชน 22 แห่งก็ควรมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนที่จะมีการยกเลิกเพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด” นายวิชาญ กล่าว