“เพื่อไทย” จี้ “ประยุทธ์” ปลดล็อกดาวน์ ใน 120 วันให้ได้ก่อนเปิดประเทศ ชี้ ยิ่งทำยิ่งล้มเหลว สับสนในการสั่งการ ท่องเที่ยวเจ๊งหนัก แนะ เร่งเจรจายืมวัคซีนตามคำแนะนำ “พี่โทนี่” เพราะมีจริง
นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส. เชียงใหม่ ประธานอนุกรรมการนโยบายท่องเที่ยว รองเลขาธิการ และ คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม และ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ได้ขยายการล็อกดาวน์ออกไปเรื่อยๆ จาก 10 จังหวัด เป็น 13 จังหวัด เป็น 29 จังหวัด และ ยังขยายเวลาการล็อกดาวน์ออกไปเรื่อยๆ อีกครั้งละ 14 วัน ทั้งๆ ที่รู้ว่าคงต้องล็อกดาวน์อีกหลายเดือน ซึ่งเป็นผลมาจากการบริหารประเทศที่ผิดพลาด โดยเฉพาะการบริหารจัดการเรื่องวัคซีนที่คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยเตือนมาโดยตลอดแม้พลเอกประยุทธ์ ยังจะพยายามจะขายฝันว่าจะเปิดประเทศได้ภายใน 120 วัน ซึ่งตรงกับวันที่ 14 ตุลาคม แต่ความจริงคือ ในวันที่ 14 ตุลาคม แค่การปลดล็อกดาวน์นี้ก็ยังไม่น่าจะทำได้ ดังนั้นจึงอยากให้พลเอกประยุทธ์ เลิกขายฝันและยอมรับความล้มเหลวว่าไม่มีทางจะเปิดประเทศใน 120 วัน ได้แล้ว และออกมาขอโทษประชาชน และขอโทษที่ส่งคนไม่มีต้นทุนออกมาพูดมั่วๆ ต่อว่าคนที่ท้วงว่าจะเปิดประเทศไม่ได้แน่ใน 120 วัน
ที่น่ากังวลคือพลเอกประยุทธ์ ยิ่งบริหารยิ่งสับสน และยิ่งล้มเหลว หลังจากล็อกดาวน์และต้องรู้ว่าต้องล็อกดาวน์อีกนานจึงพยายามจะผ่อนคลายให้ร้านอาหารในห้างรับสั่งอาหารกลับบ้านได้ แต่ไม่ให้คนไปรับเอง ต้องใช้บริการดิลิเวอรี่เท่านั้น ซึ่งทำความสับสนและเกิดความไม่สะดวกมากยิ่งขึ้น ดังนั้นจึงอยากให้เร่งแก้ไขให้ร้านอาหารเหล่านี้สามารถทำธุรกิจได้สะดวก ก่อนที่จะเจ๊งกันหมดก่อน และควรเร่งแก้ไขในทันที
ในส่วนของธุรกิจท่องเที่ยวนั้นไม่ต้องพูดถึง ความหวังที่จะนำธุรกิจให้รอดแทบจะไม่มีเลย ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์มีแต่ข่าวในด้านลบ มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ถึงขนาดต้องปิดเกาะห้ามเข้าออก และ ห้ามเดินทางระหว่างเกาะกันแล้ว อีกทั้งเมืองอื่นๆ ที่มีแผนจะเปิดแซนด์บ็อกซ์ตามมา ต่างพากันต้องหยุดกันหมด ทั้งนี้ การล็อกดาวน์ไม่รู้จะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ ถึงตอนนั้น หนี้ทบดอกเบี้ย ดอกเบี้ยทบเงินต้น คงไม่มีปัญญาใช้คืนแน่ รัฐบาลต้องคิดหาแนวทางตัดหนี้ ตัดดอกเบี้ยเพื่อช่วยให้พวกเขาอยู่รอด
ในส่วนของวัคซีนยังเป็นปัญหาอย่างมาก วัคซีนไฟเซอร์ที่ได้รับบริจาคจากสหรัฐมาตั้งหลายวัน แต่ยังไม่เร่งกระจายฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า อ้างระเบียบราชการ ซึ่งความจริงขณะนี้การที่จะต้องช่วยเหลือและป้องกันบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าไม่ให้ติดเชื้อมีความสำคัญมากที่สุด อย่าให้เป็นจริงตามข่าวที่ว่า จะมีการนำวัคซีนไฟเซอร์ไปขาย หรือ แจกกันในหมู่ VVIP ซึ่งหากเป็นจริงประชาชนจะทนกันไม่ไหวแน่ นอกจากนี้ ข่าวล่าสุด ประเทศอิสราเอลได้ทำลายวัคซีนไฟเซอร์ 8 หมื่นโดส เพราะหมดอายุ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก ซึ่งถ้าพลเอกประยุทธ์ จะฟังพี่โทนี่ และดำเนินการติดต่อประเทศต่างๆ ที่มีคลังวัคซีนเก็บไว้ โดยไทยน่าจะยืมมาฉีดให้กับประชาชนก่อนได้ แล้วไทยค่อยนำไปคืนเขาเมื่อวัคซีนที่ไทยสั่งบริษัทผลิตมาได้แล้ว ซึ่งเป็นแนวคิดที่สุดยอดแล้ว ดังนั้นจึงอยากให้พลเอกประยุทธ์ ได้เร่งดำเนินการติดต่อดังกล่าว ซึ่งถ้าทำไม่ได้ก็น่าจะร้องขอไปที่พี่โทนี่ ให้ช่วยเหลืออย่างเป็นทางการ ซึ่งเชื่อว่าพี่โทนี่ จะยินดีช่วยอย่างแน่นอน เพราะพี่โทนี่ เป็นห่วงประชาชน
ในภาวะวิกฤตหนักขนาดนี้ ประเทศไทยต้องการผู้นำที่รอบรู้ มีความสามารถ มีความชำนาญในการบริหารจัดการในหลายๆ เรื่องได้พร้อมๆ กัน และ ต้องมีคอนเนคชั่นด้วย ซึ่งพลเอกประยุทธ์ ไม่มีสักอย่าง ยิ่งพลเอกประยุทธ์ ดันทุรังอยู่ไป ประชาชนจะยิ่งเห็นความแตกต่าง และจะยิ่งต่อต้านพลเอกประยุทธ์กันมากยิ่งขึ้น