เพื่อไทย ผนึกกำลังเพื่อสตรี รับหนังสือรณรงค์ยกเลิกภาษี VAT ‘ผ้าอนามัย’ ทุกรูปแบบ “ชี้” คือปัจจัย 5 ของผู้หญิง “แนะ” จัดสรรเพิ่มให้สตรีที่ศูนย์พักคอย
นางสาวอรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทยในฐานะที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ และผู้แทนคณะทำงานนโยบายสตรีพรรคเพื่อไทย นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย เขตลาดกระบัง, นางสาวขัตติยา สวัสดิผล, และนางสาวชยิกา วงศ์นภาจันทร์ ร่วมรับหนังสือร้องเรียนจากนางสาวณฤดี จินตวิโรจน์ และนางสาวชนิสรา โสกันต์ ในนามผู้ประสานงานแคมเปญรณรงค์ยกเลิกการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มผ้าอนามัยทุกรูปแบบที่ได้ร่วมกันเข้ารายชื่อผ่านเว็บไซต์ change.org รวมกว่า 26,000 คน ขอให้ กมธ. เด็ก สตรีฯ เรียกร้องให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการพิจารณาผลักดันให้ผ้าอนามัยเป็นสินค้ายกเว้นภาษี เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้หญิงทุกคนให้มีสิทธิเข้าถึงสุขอนามัยที่ดีอย่างเท่าเทียม
ทั้งนี้นางสาวอรุณีกล่าวว่า หลังจากได้รับหนังสือร้องเรียนแล้วจะนำไปหารือร่วมกับนางมุกดา พงษ์สมบัติ ประธาน กมธ.ฯ เพื่อเรียกร้องผู้มีส่วนเกี่ยวข้องผลักดันนโยบายเพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือนร้อนของเพื่อนหญิงอย่างเป็นรูปธรรม ผู้หญิงทุกคนควรได้รับการใส่ใจดูแลตั้งแต่ครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน การดำเนินการเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทุกมิติในภาวะวิกฤตโควิดถือเป็นอีกเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามในเวลานี้
นางสาวขัตติยา กล่าวว่า การสำรวจข้อมูลพื้นฐานพบว่าราคาผ้าอนามัย 1 ชิ้นอยู่ที่ 3-9 บาท โดยเฉลี่ยการมีประจำเดือน 1 ครั้งใช้ผ้าอนามัยเกือบ 40 แผ่น ซึ่งอาจทำให้ผู้หญิงมีค่าใช้สูงเกือบ 400 บาทต่อเดือน ถึงแม้ปัจจุบันเป็นสินค้าควบคุมการขึ้นราคา แต่ยังมีราคาสูงเมื่อเทียบกับรายได้บนเส้นความยากจนประเทศไทยที่ 2,686 บาท ภาระค่าผ้าอนามัยจะสูงถึง 14% จึงควรพิจารณายกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มผ้าอนามัยทุกประเภท
โดยนางสาวธีรรัตน์ กล่าวต่อว่า ผ้าอนามัย คือของใช้จำเป็นสำหรับผู้หญิงที่รัฐมองข้าม โดยในภาวะวิกฤตโควิดระบาด ประชาชนแบกรับภาระหลายด้านด้วยกัน ตนเองรวมทั้งเพื่อน ส.ส. ผู้สมัคร ส.ส. และ ส.ก. ได้รับการร้องเรียนจากประชาชน ขอความอนุเคราะห์อาหาร ยา และสิ่งของจำเป็น ซึ่งผ้าอนามัยเป็นของใช้จำเป็นสำหรับผู้หญิงที่ถูกมองข้ามจากภาครัฐ โยนภาระให้ผู้หญิงทั้งหมด จึงอยากช่วยเป็นกระบอกเสียงแทนผู้หญิงจำนวนมากที่ต้องกักตัวอยู่ในขณะนี้
นางสาวชยิกายังได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ที่ผ่านมาผู้หญิงเราอาจต้องหยุดทำงานนอกบ้านได้ แต่ไม่สามารถหยุดเลือดที่ไหลได้ ขอเสนอให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ‘พิจารณายกเว้นภาษีผ้าอนามัย’ และจัดสรรผ้าอนามัยตามศูนย์พักคอยเพราะเป็นเสมือนปัจจัยที่ 5 ของผู้หญิง ซึ่งจำนวนประชากรหญิงไทยกว่า 51% น่าจะเป็นเหตุผลที่สมควรแก่การพิจารณานี้ พร้อมกันนี้ยังได้บริจาคผ้าอนามัยจำนวน 1,800 ชิ้นให้แก่ผู้หญิงที่ต้องกักตัวผ่านศูนย์พักคอยเขตลาดกระบังอีกด้วย