นายนิยม ช่างพินิจ ส.ส.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะมีขึ้น พรรคเพื่อไทยอภิปรายเพื่อจะชี้ให้ประชาชนเห็นถึงความล้มเหลวในการแก้ปัญหาภาคอุตสาหกรรมการเกษตรของรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทำตัวเป็นผู้ซื้อมากกว่าผู้ขาย ให้ความสำคัญกับการซื้ออาวุธมากกว่าการขายสินค้าทางการเกษตรเพื่อช่วยประชาชน ไร้ความสามารถในการหาตลาดขายสินค้าใหม่ๆในต่างประเทศ ทั้งๆ ที่รัฐบาลมีความพร้อมทุกอย่างทั้งเรือขนส่งสินค้าหรือการขนส่งสินค้าทางอากาศ แต่รัฐบาลทำไม่เป็นหรือไม่คิดจะทำมากกว่า

นายนิยม กล่าวด้วยว่า นโยบายประกันราคาสินค้าเกษตรของรัฐบาล เหมือนการนำงบประมาณของรัฐบาลหลายแสนล้านบาทไปอุ้มผู้ประกอบการเพื่อหาประโยชน์จากส่วนต่างของราคาประกันสินค้าเกษตร ทั้งนี้นโยบายดูแลราคาสินค้าเกษตร ของพรรคพลังประชารัฐได้เคยประกาศไว้ในหลายโอกาส ว่าหากได้เป็นรัฐบาลจะดูแลราคาสินค้าเกษตร ไม่ให้มีราคาต่ำกว่านี้ ข้าวหอมมะลิ 18,000 บาทต่อตัน ข้าวเจ้า 12,000 บาทต่อตัน แต่ปัจจุบันราคาข้าวสารอยู่ที่ 7,000 บาทต่อตัน และข้าวหอมมะลิที่ 8,000 บาทต่อตัน ห่างไกลจากนโยบายที่รัฐหาเสียงไว้มาก

“พลเอกประยุทธ์ ไม่เคยเป็นเกษตรกร ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าเกษตรกรได้รับความลำบากแค่ไหน รัฐบาลชอบสร้างฝันในอากาศ ซึ่งจับต้องไม่ได้ และไม่ให้ความสำคัญกับนโยบายที่ประกาศไว้ รัฐบาลมีอำนาจมีข้อมูลมากมาย แต่ทำไม่เป็น ส่งผลให้เกษตรกรประสบปัญหามาตลอด 3 ปีของรัฐบาล ทุกครั้งที่เกษตรกรขายสินค้า จะขายทั้งน้ำตา รัฐบาลใจดำมากที่ทอดทิ้งเกษตรกร หากแก้ไขไม่ได้ พลเอกประยุทธ์ ก็ลาออกไปอย่าสร้างความเสียหายให้เกษตรกรอีกเลย” นายนิยม กล่าว