“สุทิน” ย้ำเพื่อไทยแก้ รธน. ทวงคืนระบบบัตรเลือกตั้งสองใบ เพราะนึกถึงหัวอกประชาชนที่ต้องการเลือกทั้งคนและพรรค
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญในส่วนของพรรคเพื่อไทย ยืนยันหลักการระบบเลือกตั้ง แบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบที่เคยใช้ในรัฐธรรมนูญ 2540 ซึ่งทุกคนยอมรับว่าเป็นฉบับประชาชนและเป็นประชาธิปไตยมากที่สุด รวมทั้งการกำหนดสัดส่วน ส.ส. ให้มี ส.ส.ระบบเขต 400 คน และ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ 100 คน ซึ่งที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยยืนยันหลักนี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลง เนื่องจากเห็นว่ารัฐธรรมนูญ 2540 ซึ่งร่างโดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ได้รับการเขียนขึ้นจากสภาพความเป็นจริงของสังคมไทยที่มีทั้งสังคมเมืองและสังคมชนบท รวมถึงการดูแลประชาชนในแต่ละพื้นที่
นายสุทิน กล่าวว่า รัฐธรรมนูญ 2540 ได้มีการศึกษามาแล้วว่า ส.ส. หนึ่งคนจะต้องดูแลประชาชนได้จำนวนเท่าใดถึงจะทั่วถึง ซึ่งถ้าเขตใหญ่เกินไปก็จะดูแลไม่ทั่วถึง อีกทั้งผู้สมัคร ส.ส. ที่ทุนทรัพย์น้อยก็จะเสียเปรียบผู้สมัคร ส.ส.ที่มาจากพรรคการเมืองใหญ่และมีทุนสนับสนุนสูง ดังนั้นระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ และแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส.เป็น 400 คน 400 เขตก็จะทำให้ผู้สมัคร ส.ส.จากทุกพรรคมีโอกาสในสนามเลือกตั้งเท่าเทียมกัน ไม่เสียเปรียบพรรคใหญ่และมีโอกาสชนะการเลือกตั้งได้
นายสุทิน กล่าวว่า ในส่วนของระบบบัตรเลือกตั้งใบเดียว หากมีระบบ ส.ส.เขต อย่างเดียวก็จะไม่มีปัญหา แต่เมื่อมีการแบ่ง ส.ส.เป็น 2 ประเภทจากบัตรเลือกตั้งใบเดียวประชาชนจึงถูกบีบให้ต้องเลือก เช่น ถ้าเขาชอบนายสุทินแต่ไม่ชอบพรรคที่สังกัด หรืออาจชอบพรรคมากกว่าตัวผู้สมัคร ประชาชนก็ต้องกล้ำกลืนฝืนใจเลือก เพราะระบบบีบบังคับให้ต้องเลือกทั้งคนและพรรคพร้อมกัน ซึ่งไม่สะท้อนเจตนารมณ์ของประชาชน แต่ถ้าเป็นแบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ หากประชาชนชอบนายสุทิน ก็ลงคะแนนเลือกนายสุทิน แต่ถ้าไม่ชอบพรรคที่นายสุทิน สังกัดก็สามารถลงคะแนนให้พรรคอื่นได้ ประชาชนไม่ถูกกดดันและสื่อถึงความต้องการของประชาชนที่แท้จริง
“สำคัญมากคือระบบเลือกตั้งแบบบัตรใบเดียวทำให้เกิดพรรคการเมืองเล็กน้อย กระจัดกระจาย เกิดปัญหาคะแนนเขยง และ ส.ส.ปัดเศษเต็มไปหมดอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ซึ่งเป็นที่มาทำให้เกิดรัฐบาลผสม 19 พรรคที่ไม่มีเอกภาพ อย่างที่เราเห็นกันอยู่ ซึ่งอัปลักษณ์ มากกว่านั้นยังทำให้พรรคการเมืองที่ตอนหาเสียงบอกว่าจะไม่เอาประยุทธ์ แต่พอเลือกตั้งเสร็จก็ยุบพรรคตัวเองย้ายขั้วไปอยู่กับพรรคที่เคยบอกว่าเกลียด ซึ่งเป็นการเอาคะแนนเสียงประชาชนเลือกมาไปหนุนพ่วงรัฐบาลที่ประชาชนไม่ต้องการ ซึ่งนอกจากไม่ตอบสนองต่อเจตจำนงของประชาชนแล้ว ยังทำลายหัวใจขอะงประชาชนที่ละแนนเสียงเลือกตั้งอีกด้วย”
นายสุทิน กล่าวว่า ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยถูกโจมตีว่าต้องการระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เพราะตัวเองได้ประโยชน์ เพื่อที่จะชนะการเลือกตั้งนั้นก็ต้องบอกว่า ผลการเลือกตั้งที่ออกมา ไม่ว่าจะบัตรเลือกตั้งใบเดียวหรือสองใบ พรรคเพื่อไทยก็ชนะการเลือกตั้งเป็นอันดับที่ 1 ของประเทศ และการเลือกตั้ง 2562 ที่ผ่านมาพรรคก็ชนะการเลือกตั้งเหนือพรรคพลังประชารัฐ แม้ว่าจะส่งผู้สมัคร ส.ส.เพียงแค่ 250 เขตจาก 350 เขตเลือกตั้ง ซึ่งมั่นใจว่าหากพรรคส่งผู้สมัครครบทั้ง 350 เขต ก็จะชนะการเลือกตั้งแบบถล่มทลายแน่นอน
“ผู้ที่กล่าวหาว่าเราอยากได้ระบบเลือกตั้งแบบบัตรสองใบ เพื่อจะเอาเปรียบคนอื่นนั้นก็ต้องเรียนว่า บัตรสองใบเราก็เคยชนะ บัตรใบเดียวเราก็ชนะ และชนะมากด้วย วันนี้จึงต้องมองร่วมกันว่า ถ้าระบบเลือกตั้งเป็นระบบที่ทุกคนยอมรับว่าเป็นธรรมแล้ว ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะในกติกาที่เสมอภาคและทุกคนยอมรับ เราจะไม่เสียใจ และสำหรับพรรคเพื่อไทย จะแพ้หรือชนะไม่สำคัญเท่ากับความศรัทธาที่ประชาชนมีให้” นายสุทิน กล่าว