“ทัดดาว” ว่าที่ผู้สมัคร สก.เขตราชเทวี พรรคเพื่อไทย รุดช่วยหญิงป่วยโรคจิตเวช ติดโควิด-19 คุ้มคลั่งกระโดนให้รถชน พร้อมประสานไปยังโรงพยาบาลในการรักษา ย้ำช่วยเหลือทุกความเดือดร้อนในพื้นที่ เพราะเข้าใจความเดือดร้อนของประชาชน
นางสาวทัดดาว ตั้งตรงเจริญ ว่าที่ผู้สมัคร สก.เขตราชเทวี พรรคเพื่อไทยได้รับการประสานจากประชาชนในชุมชนโรงเจ เขตราชเทวี เมื่อคืนที่ผ่านมาว่ามีผู้หญิงที่ป่วยโรคจิตเวช อาศัยในบ้านพักตามลำพัง ไม่มีญาติดูแล มีภาวะคลุ้มคลั่ง พยายามวิ่งให้รถชนบริเวณหน้าโรงเรียนมักกะสันพิทยา จึงรีบไปจุดบริเวณที่เกิดเหตุพร้อมประธานชุมชนนิคมมักกะสัน และกู้ภัยฐานโพธิ์คู่ ขอการสนับสนุนรถไปส่งตัวผู้ป่วยที่ศูนย์พักคอย แขวงถนนพญาไท เนื่องจากพบว่าผู้ป่วยคนดังกล่าวติดเชื้อโควิด-19 ด้วย
แต่เนื่องจากผู้ป่วยมีสภาวะทางจิต ไม่สามารถควบคุมตัวเองและดูแลตัวเองได้ ทางศูนย์พักคอยไม่สามารถรับตัวเอาไว้ได้ จึงแนะนำให้ส่งต่อไปยังโรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา เพราะผู้ป่วยมีประวัติการรักษากับทางโรงพยาบาล และทางโรงพยาบาลสามารถดูแลผู้ป่วยทางจิตที่ติดเชื้อโควิดได้ ตนจึงได้ประสานไปยังโรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา แต่ไม่สำเร็จเนื่องจากจะต้องมีหนังสือส่งตัวหรือประสานเตียงเอาไว้เท่านั้น จึงจะสามารถส่งตัวเข้ารับการรักษาได้
ตนเองจึงได้นำผู้ป่วยไปยังสถานีตำรวจพญาไท เพื่อขอพักตัวก่อน แต่ผู้ป่วยเกิดมีอาการคลุ้มคลั่งขึ้นอีก กระโดดลงจากรถไปกลางถนน ตนเองจึงได้ประสานไปยังนพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีตรองนายกรัฐมนตรี เพื่อขอคำปรึกษาและได้แนะนำให้ทางโรงพยาบาลประสานกันเอง พร้อมได้ประสานไปยังกรมสุขภาพจิต เพื่อแจ้งถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยทางกรมสุขภาพจิตให้ประสานกับโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ซึ่งเป็นโรงพยาบาลตามสิทธิของคนป่วย
“ระหว่างที่ให้การช่วยเหลือผู้ป่วยที่คลุ้มคลั่งที่สถานีตำรวจพญาไท ทีมงานเส้นด้าย ที่ทราบข่าวจากการดูไลฟ์สดได้เข้ามาช่วยกันเกลี้ยกล่อม พร้อมกับได้ส่งรถไปรับญาติของผู้ป่วยมาพูดคุย ส่วนตนเองได้เข้าประสานกับโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โดยคุณหมอที่โรงพยาบาลต้องนัดประชุมด่วนเพื่อหารือกันในทันทีเพราะไม่เคยเจอเคสแบบนี้ ได้ข้อสรุปว่าโรงพยาบาลยอมรับเคสนี้เพื่อทำการรักษาเบื้องต้นก่อน และประสานไปยังกรมสุขภาพจิตพิจารณาส่งตัวผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลปลายทาง หลังจากที่ได้รับเอกสารการตรวจครบแล้ว”
นางสาวทัดดาว ระบุว่า เคสนี้ถือเป็นเคสแรกที่ได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือ หลังจากที่ตนเองหายป่วยจากโควิด-19 แล้ว ซึ่งไม่ว่าประชาชนในพื้นที่จะเดือดร้อนอย่างไร ตนเองพร้อมเข้าไปให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เพราะเข้าใจถึงความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ ที่ได้รับความเดือดร้อนในขณะนี้