นางสลิลทิพย์ กล่าวต่อว่าพื้นที่สมุทรปราการ ใช้ระบบคลองสาธารณะในการระบายน้ำ มีเครื่องสูบน้ำทั้งจังหวัดแค่ 80 กว่าตัว มีประตูระบายน้ำแค่ 2 จุด ซึ่งไม่เพียงพอ นอกจากนี้ยังมีปัญหาการสร้างถนนทับคลองแพรกษาซึ่งเป็นคลองระบายน้ำตามธรรมชาติ พอคลองถูกถนนทับ น้ำก็ไหลบนพื้นถนนเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน สร้างความเสียหายให้ยานพาหนะและทรัพย์สิน จนตอนนี้พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนและกังวลกับสถานการณ์ เพราะไม่เพียงแค่ต้องประสบวิกฤตโควิดที่ยังระบาดรุนแรงแทบทุกซอย มีผู้กักตัวอยู่บ้านจำนวนมากแล้ว ยังต้องเจอกับปัญหาน้ำท่วม และบางชุมชนยังมีปัญหาน้ำท่วมขังต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคมจนถึงวันนี้

“อยากเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ ลงมาแก้ปัญหาน้ำท่วมจังหวัดสมุทรปราการ อย่างเป็นระบบ ตั้งแต่การบริหารจัดการน้ำ ปัญหาการสร้างถนนทับคลองสาธารณะ ปัญหาจำนวนเครื่องสูบน้ำและจุดระบายน้ำลงทะเลที่ไม่เพียงพอ ถ้าพลเอกประยุทธ์ เข้าใจภาพรวมของปัญหาน้ำท่วมได้ถ่องแท้ ก็จะส่งผลให้การมาลงพื้นที่ของพลเอกประยุทธ์ มีประโยชน์ทั้งกับการสั่งการให้ข้าราชการแก้ไขปัญหาและเป็นประโยชน์กับประชาชนที่จะได้รับการแก้ไขปัญหาด้วย” นางสลิลทิพย์ กล่าว