อนุสรณ์ ชี้ 7 ปี แห่งความล้มเหลว ภาวะผู้นำสาบสูญ ประชาชนสูญเสียโอกาส

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี ข้อถกเถียงคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ ปี 60 กำหนดให้ดำรงตำแหน่งได้ไม่เกิน 8 ปี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเป็นนายกฯได้เกินเดือน ส.ค.65 หรือไม่ ว่า สภาพ พล.อ.ประยุทธ์ ขณะนี้น่าจะไปก่อนถูกยื่นตีความเพราะประชาชนตีความไปก่อนแล้วว่าไม่ผ่าน ทำงานเหมือนทดลองงานวนเวียนอยู่กับการไม่รับเงินเดือน 3 เดือน ทั้งที่ไม่ควรจะได้รับเงินเดือนเลยตั้งแต่ต้น ภาวะผู้นำสาบสูญ ทำประเทศชาติและประชาชนสูญเสียโอกาส รัฐบาลล้มเหลว จนอาจนำไปสู่รัฐล้มเหลว 7 ปัญหาที่ทำให้รัฐบาลเผชิญวิกฤตศรัทธา

1.บ้านเมืองขัดแย้งแตกแยก นโยบายเลือกความสงบจบที่ลุงตู่ จบไปตั้งแต่ประชาชนเห็นความพยายามในการสืบทอดอำนาจของระบอบประยุทธ์
2.ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ไม่มีอยู่จริงสภาพเหมือนปฏิรูปย้อนยุค ทำการเมืองประเทศถอยหลังไปกว่า 40 ปี
3.ปฏิรูประบบราชการ ปฏิรูปกองทัพ ปฏิรูปตำรวจ ล้มเหลว
4.ทำลายความเข้มแข็งของพรรคการเมืองที่ควรเป็นสถาบันทางการเมือง ทำการเมืองแบบโบราณย้อนยุค สร้างก๊ก สร้างมุ้ง ต่อรองผลประโยชน์ แจกกล้วยแลกโหวต ตอนยึดอำนาจฉีกรัฐธรรมนูญพรรคร่วมรัฐบาลเงียบกริบ แต่พอถูกยึด4หน่วยงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กลับโวยวาย
5.สอบตกการแก้ไขปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โควิด-19 วัคซีนคุณภาพมีไม่พอ ประกาศไตรมาส 3 วัคซีนเต็มแขนล้นโรงพยาบาลเลยมาถึงไตรมาส4 คนตายเป็นใบไม้ร่วง กลับไม่มีคำตอบจากรัฐบาล
6.วิกฤตเศรษฐกิจ คนตกงาน ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ รายได้ต่ำค่าครองชีพสูง ราคาน้ำมันพุ่ง6ครั้งในรอบ1เดือน
7.วิกฤตน้ำท่วม เป็นฟางเส้นสุดท้ายที่เปลือยความสามารถรัฐบาลว่ามีอยู่แค่ไหน แทนที่จะลงพื้นที่ดูแลประชาชนวัดระดับน้ำ กลับใช้เป็นเวทีวัดบารมี 3ป. ข้าราชการอึดอัด แทนที่จะแยกย้ายไปดูแลประชาชนให้ทั่วถึงกลับต้องมาตบเท้ารวมกลุ่มรายงานตัวกับ 2 ป.

“ประชาชนตีความล่วงหน้าไปก่อนแล้วว่ารัฐบาลประยุทธ์ภาวะผู้นำสาบสูญ ประชาชนสูญเสียโอกาสต้องนับถอยหลังคืนอำนาจให้ประชาชน”นายอนุสรณ์กล่าว

อนุสรณ์ ชี้ ถ้าเพื่อไทยอยู่การแก้ปัญหาดีกว่านี้แน่นอน
 
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ประเทศไทยภายใต้การนำของรัฐบาลสืบทอดอำนาจทำให้ประเทศชาติและประชาชนเสียโอกาส ว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยมีโอกาสได้อยู่ทำงาน การแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนต้องทำได้ดีกว่านี้แน่นอน อย่างน้อยปัญหาวิกฤต 4 ด้านที่ประชาชนกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ พรรคเพื่อไทยมีองค์ความรู้ มีประสบการณ์ที่สามารถแก้ไขปัญหาได้

1.โครงการบริหารจัดการน้ำ 350,000 ล้านบาท ลาทีน้ำท่วมน้ำแล้ง จะสามารถแก้ไขปัญหาวิกฤตให้กับประเทศชาติและพี่น้องประชาชนได้อย่างเป็นระบบครบวงจร รัฐบาลยิ่งลักษณ์มาพร้อมน้ำยังแก้ไขปัญหาได้ดีกว่ารัฐบาลประยุทธ์ที่มีเวลาศึกษาดูงานเตรียมการวางระบบเกือบ 8 ปี แต่ทำอยู่ 3 อย่างคือ ลงพื้นที่ประลองกำลังใช้หน่วยงานในกองทัพขุดลอก จนเป็นประเด็นปัญหาและกำจัดผักตบชวาลูบหน้าปะจมูก โดยไม่ได้ทำโครงการวางระบบหรือแก้ปัญหาในระยะยาวเลย
2.โครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง รถไฟความเร็วสูง ที่รัฐบาลประยุทธ์ดำเนินการอย่างล่าช้าทำให้ประชาชนเสียโอกาส
3.ราคาสินค้าเกษตรจะไม่ตกต่ำหรือวิกฤตหนักขนาดนี้ทั้งข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง ราคาสูงกว่านี้ นโยบายของรัฐบาลประยุทธ์ ที่จะทำให้ราคาสินค้าเกษตรพุ่งสูงไม่สามารถทำได้จริงและไม่มีความรับผิดชอบ
4.ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ที่รัฐบาลเพื่อไทยแก้ปัญหาโดยการแจกแท็บเล็ตให้กับนักเรียนเพื่อใช้ในการเรียนออนไลน์ อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงใช้ฟรีเข้าถึงคุณภาพการศึกษา ลดภาระค่าใช้จ่ายผู้ปกครอง ในขณะที่รัฐบาลประยุทธ์ ล้มเหลวด้านการศึกษาแทบทุกมิติ

เฉพาะปัญหาวิกฤตเร่งด่วน 4 ด้าน ถ้าพรรคเพื่อไทยมีโอกาสได้ทำงานต่อหรือได้รับโอกาสจากพี่น้องประชาชนในการเลือกตั้งครั้งหน้าเชื่อมั่นว่าทุกปัญหาจะได้รับการแก้ไขอย่างแน่นอน

“7ปีกับการเสียโอกาส ถ้าพรรคเพื่อไทยได้รับความไว้วางใจจะกลับมาสานต่อนโยบายที่ดี คืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ให้คนไทย พัฒนาขีดความสามารถและสร้างโอกาสการแข่งขันของประเทศ” นายอนุสรณ์กล่าว