ช้างไลฟ์ติ๊กตอกไม่พอยาไส้ ปางช้างไปต่อไม่ไหว “เพื่อไทย” ร้องรัฐเยียวยาควาญตกงาน อย่าปล่อยสมบัติชาติเร่ร่อนไร้ค่าทั้งที่สร้างรายได้เข้าประเทศ
นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย และนายคุณากร ปรีชาชนะชัย ส.ส. สุรินทร์ เข้าร่วมรับฟังปัญหาช้างตกงานจากควาญช้างทั่วประเทศ ผ่านทวิตเตอร์ สเปซ ซึ่งจัดโดยเพจ “รวมช้างตกงาน” พบว่า หลังจากรัฐบาลปิดการท่องเที่ยว ปางช้างทั่วประเทศทยอยปิดกิจการ โดยยังมีปางช้างจำนวนหนึ่งยังให้ที่พักพิงช่วยเหลือช้างและควาญช้างมาตลอด ซึ่งเป็นการช่วยเหลือกันเองของประชาชน แต่ขณะนี้ปางช้างทั้งหมดกำลังเกิดวิกฤต เพราะไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายที่มีได้อีกต่อไปแล้ว แม้จะให้ช้างใช้ช่องทางถ่ายทอดสดผ่านแอปพลิเคชันติ๊กตอก เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ หรือยูทูป เพื่อขายอาหารช้าง รายได้ก็ไม่เพียงพอ เนื่องจากประชาชนเองก็รายได้น้อยลงจนเอาตัวไม่รอดเช่นกัน
นายชนินทร์กล่าวอีกว่า สถานการณ์ตอนนี้ ช้างจำนวนไม่น้อยกำลังถูกขับออกจากปางช้างที่เคยให้การช่วยเหลือ หากเดินกลับบ้านเกิด ก็กลัวโดนเอาผิดตามกฎหมายห้ามเร่ช้างบนทางสาธารณะ และอาจเกิดอันตรายต่อช้าง ควาญ และส่วนรวม แต่หากต้องขนช้างกลับต้องมีค่าใช้จ่ายในการขนย้าย 15,000 บาทต่อเชือก มากไปกว่านั้นในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์และบุรีรัมย์มีช้างกลับภูมิลำเนาจากผลกระทบโควิด-19 มาอยู่รวมกันแล้วราว 1,000 เชือก จนในพื้นที่เองก็ขาดแคลนทรัพยากรที่จะใช้เป็นอาหารช้างเช่นกัน จึงอยากให้รัฐออกมาตรการช่วยระงับการเคลื่อนย้ายช้างที่เป็นแรงงานด้านการท่องเที่ยว โดยพิจารณาจ่ายเงินชดเชยให้กับปางช้างในจังหวัดท่องเที่ยวเพื่อพยุงธุรกิจไว้ แลกกับการให้ที่พักพิงแก่ช้างในปางจนกว่าจะสามารถเปิดการท่องเที่ยวได้ รวมทั้งพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาให้กับกลุ่มคนเลี้ยงช้างทันที เพื่อช่วยแบ่งเบาค่าอาหาร อย่าปล่อยให้สมบัติของชาติต้องล้มตายจากการบริหารที่ผิดพลาด จนต้องปิดประเทศ ปิดการท่องเที่ยวเป็นเวลานาน
“พวกเขาตกงานมาเกือบ 2 ปี ความอยู่รอดของช้างไทยแขวนอยู่บนเส้นด้ายที่ใกล้จะขาด ควาญทุกคนพยายามดิ้นรนหาทางรอดเต็มที่แล้ว โดยไม่มีการเหลียวแลอะไรจากรัฐเลย หากนายกฯยังไม่ใยดี ปล่อยช้างออกมาเร่ร่อน ผมกลัวเหลือเกินว่าอัตลักษณ์ของประเทศไทยจะหายไป แบบไม่สามารถเรียกคืนกลับมา” นายชนินทร์กล่าว