นายนิยม ช่างพินิจ ส.ส.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์ของประเทศไทยหลังจากนี้เชื่อว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่สามารถนำรัฐบาลฝ่าวิกฤตประเทศได้อย่างแน่นอน หลายครั้งที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์แก้ปัญหาโดยการไม่ทำอะไร แต่สร้างปัญหาใหม่เพื่อเบี่ยงประเด็น ดังนั้นวิธีการของพลเอกประยุทธ์คือการนำปัญหาไปซุกไว้ใต้พรม เพราะไม่มีปัญญาแก้

แต่ขอเตือนพลเอกประยุทธ์ว่า ในปลายเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนพฤศจิกายน ข้าวเปลือกจำนวน 26 ล้านตัน ที่ชาวนาเก็บเกี่ยวจะนำเข้าสู่ระบบ หลังจากเกี่ยวข้าวเสร็จแล้ว ปัญหาที่ตามมาคือ โรงสีหลายแห่งขาดสภาพคล่อง ไม่มีเงินรับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนา ที่ผ่านมารัฐบาลไม่เคยให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการโรงสี ไม่ว่าจะเป็นการเสริมสภาพคล่อง หรือ การหาแหล่งทุนให้กับผู้ประกอบการโรงสี ดังนั้นในปี 2564 พบว่าโรงสีหลายแห่งปิดกิจการเป็นจำนวนมาก เพราะไร้เงินทุนหมุนเวียน

นายนิยม กล่าวด้วยว่า ในส่วนของการขายข้าวในต่างประเทศ พลเอกประยุทธ์สอบตกในด้านการหาตลาดใหม่ๆให้กับผู้ค้า เป็นปัญหาสำคัญเพราะข้าวจำนวนมาก ไม่สามารถระบายออกสู่ตลาดได้ ที่เป็นเช่นนี้เพราะรัฐบาลทำงานไม่เป็นและทั้งกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงพาณิชย์ ไร้ความสามารถในการหาตลาดให้กับผู้ประกอบการ

“หลายปีที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์ ทอดทิ้งเกษตรกรมาตลอด ไม่เคยแก้ปัญหาให้เกษตรกร หากปีนี้ยังละเลยปัญหาเกษกร ขอเตือนพลเอกประยุทธ์ว่า ชาวนานับล้านคนจะเดินทางมาทวงสัญญากับพลเอกประยุทธ์ถึงทำเนียบรัฐบาลแน่ เพราะเจ็บช้ำใจกับรัฐบาลมานานหลายปีแล้ว ดังนั้นพลเอกประยุทธ์ต้องหยุดเอาใจนายทุน หันมาให้ความสำคัญกับชาวนามากกว่านี้ ต้องมีนโยบายชัดเจนเกี่ยวกับการแก้ปัญหาเกษตรกร อย่าดีแต่พูด เพราะการกระทำสำคัญกว่าคำพูด” นายนิยม กล่าว