“จิรพงษ์” ชี้เปิดประเทศ 1 พ.ย.ธุรกิจจะยังร้างเหตุไม่มีทุนกลับมาเปิดกิจการ แนะใช้นโยบายรัฐบาลเพื่อไทยฟื้นประเทศ
นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 และความพร้อมเปิดประเทศไทยยังอยู่ในสถานการณ์ที่น่าไว้ใจ เพราะตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ ตัวเลขผู้เสียชีวิต และผู้รักษาตัวยังคงไม่ลดลง พื้นที่ระบาดยังอยู่ในเมืองหลัก อย่างกรุงเทพ และสมุทรปราการ ซึ่งได้รับเสียงสะท้อนจากผู้ประกอบการหลายคนที่ยังสับสนว่าการเปิดกิจการจะต้องทำอย่างไรบ้าง และจะเอาเงินที่ไหนมาฟื้นฟูเพื่อเปิดกิจการอีกครั้ง เพราะเข้าไม่ถึงมาตรการเยียวยาการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ของรัฐ ที่มีเงื่อนไขปล่อยกู้ที่เข้มงวดมากเกินไป มาตรการแบงค์ชาติพักชำระหนี้ 2 เดือน กำลังจะหมดสิ้นเดือนนี้ ซึ่งหากผู้ประกอบการมีสินเชื่อเงินกู้เบิกเกินบัญชี (OD) อยู่ ก็จะถูกบังคับจ่าย จุงไม่มีเงินเหลือเพียงพอที่จะกลับมาเปิดกิจการ บางรายเจอครบรอบกำหนดการพักชำระหนี้ 6 เดือนอีก ยิ่งกลายเป็นภาระหนักขึ้น 2 เท่า
นายจิรพงษ์ กล่าวอีกว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศไม่มี การแพร่ระบาดรุนแรง ขั้นตอนยุ่งยาก รัฐบาลเปิดประเทศแล้ว แต่เปิดไม่หมด สร้างความลำบากให้กับต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามา เพราะกิจการหลายอย่างยังไม่สามารถเปิดทำการได้ จึงเสนอให้รัฐบาลนำกองทุนหมู่บ้าน กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี สมัยรัฐบาลดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ทำเอาไว้ จะได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศไทย
นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวปิดท้ายว่า หากรัฐบาลมั่นใจว่าไทยสามารถเปิดประเทศไทยได้อย่างปลอดภัย 1 พฤศจิกายนนี้ ก็ขอให้ช่วยผ่อนปรนมาตการเคอร์ฟิว 5 ทุ่ม – ตี 3 เพื่อให้คนในประเทศเริ่มมีการเตรียมพร้อมและทำมาหากินได้ เพราะเวลา 4 ชั่วโมงนี้มีคุณค่ากับคนทำงานกลางคืน ทั้งนี้กลุ่มคนทำงานกลางคืนไม่ได้มีแค่ผับบาร์ แต่ยังมีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า ค้าขาย-ขนสินค้าเตรียมขายของ และกลุ่มคนขับรถรับจ้าง-แท็กซี่ด้วย ช่วยคิดเผื่อและเปิดโอกาสให้คนทำมาหากินได้ด้วย