“วันนิวัต”อัด“บิ๊กตู่”เอาใจนักท่องเที่ยวทำประชาชนเสี่ยงระบาดรอบใหม่ เผยเด็กนักเรียนหวั่นผลข้างเคียงหลังฉีดแนะสร้างหลักประกัน
นายวันนิวัติ สมบูรณ์ ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า จากนโยบายรัฐบาลกำหนดให้เปิดเรียนในโรงเรียนพร้อมกันในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ทั้งนี้จากการระบาดของไวรัสโควิดที่รัฐที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ มีคนติดเชื้อวันละ 10,000 ราย ชี้ให้เห็นว่ารัฐล้มเหลวในการคุมการระบาดของไวรัส
รัฐบาลได้กำหนดให้มีการฉีดวัคซีนใน 21 จังหวัดในพื้นที่สีแดง โดยจัดการฉีดวัคซีนไฟเซอร์สำหรับเด็กอายุ 12-18 ปี รัฐบาลควรที่จะขยายกลุ่มเป้าหมายโดยการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเด็กนักเรียนสายอาชีพทั้งปวช.-ปวส. ไปจนถึงมหาวิทยาลัยเพิ่มด้วย เพราะมีเป็นความจำเป็นเช่นกัน หน้าที่ของรัฐคือจัดหาวัคซีนคุณภาพให้กับกลุ่มคนเหล่านี้ ไม่ควรไปบังคับให้ฉีดวัคซีนที่รัฐจัดให้ ซึ่งหลายคนยังไม่เชื่อมั่นในประสิทธิภาพของวัคซีน อยากถามพลเอกประยุทธ์ ว่าเด็กคนไหนฉีด ได้เข้าเรียน แล้วนักเรียนที่ไม่ฉีดจะมีสิทธิเข้าเรียนหรือไม่ รัฐบาลต้องชัดเจนในการแก้ปัญหาเรื่องนี้ อย่าโยนภาระให้โรงเรียนหรือผู้ปกครอง
นายวันนิวัติ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้นักเรียนหลายพื้นที่ โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียนชายหลายคนยังคงกังวลกับผลข้างเคียงของวัคซีน โดยเฉพาะนักเรียนชายพบว่าเกิดปัญหาคือ อาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ถือเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลให้เด็กไม่กล้าฉีดวัคซีนที่รัฐบาลจัดหาให้ รัฐบาลไม่เคยสร้างความเชื่อมั่นในวัคซีนให้กับประชาชนได้เลย รวมทั้งหากมีผลข้างเคียงก็ไม่ได้รับการเยียวยาจากรัฐ เพราะจะอ้างว่าเกิดจากโรคส่วนตัว รัฐอยากให้ฉีด ต้องไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบหากเกิดปัญหาหลังการฉีดวัคซีน
“พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เลือกที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว เพื่อให้เอื้อกับนโยบายเปิดประเทศที่พลเอกประยุทธ์ ประกาศไว้ โดยเอาชีวิตของประชาชนไปเสี่ยง กับ การระบาดรอบใหม่หลังเปิดประเทศ ทั้งๆ ที่การฉีดวัคซีนให้ประชาชนรัฐบาลควรทำตั้งนานแล้วแต่ไม่ทำพลเอกประยุทธ์ ไร้ความรับผิดชอบไม่สามารถจัดหาวัคซีนให้ประชาชน สุดท้ายเบี่ยงประเด็นโดยการเปิดประเด็นใหม่เพื่อกลบรอยแผลที่ตัวเองสร้างไว้” นายวันนิวัติ กล่าว