รัฐบาลเกียร์ว่าง ปล่อยบีทีเอสรีดค่าโดยสารคนรายได้น้อย เหตุยกเลิกตั๋วรายเดือนซ้ำเติมประชาชนลำบากหนัก

นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีรถไฟฟ้าบีทีเอส ยกเลิกการให้บริการตั๋วรายเดือน โดยอ้างผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ว่ารัฐบาลที่นำโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่เคยทำงานเชิงรุก เป็นหูเป็นตาดูแลคุณภาพชีวิตและมาตรฐานค่าครองชีพ ไม่เคยยืนเคียงข้างแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน การยกเลิกตั๋วรายเดือนบีทีเอส มีแต่จะทำให้ประชาชนเดือดร้อน โดยเฉพาะต้นทุนในการเดินทางที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ต้องแบกรับภาระค่าโดยสารรายเที่ยวเพิ่มขึ้นกว่า 100% จนต้องมีการรณรงค์ติดแฮชแทค #เอาตั๋วเดือนคืนมา ในสังคมออนไลน์ในปัจจุบัน ทุกวันนี้ค่าใช้จ่ายของประชาชนสูงขึ้นทุกรายการ แต่ยังขาดรายได้และยังไม่สามารถกลับมาประกอบอาชีพได้ ปล่อยให้ประชาชนเรียกร้อง ดิ้นรน และหาทางออกกันเองเสมอ

ทั้งนี้การยกเลิกตั๋วเดือนรถไฟฟ้าบีทีเอส อาจจะเป็นแนวทางที่พอทำได้ในช่วงล็อกดาวน์และรณรงค์ลดการเดินทาง แต่ในช่วงเตรียมเปิดประเทศเตรียมเปิดการเดินทางแบบนี้ จึงอดสงสัยไม่ได้ว่า บีทีเอสกำลังฉวยโอกาสนี้ ใช้ภาระค่าเดินทางของประชาชนเป็นตัวประกัน เพื่อกดดันรัฐบาลแลกการจ่ายหนี้และข้อตกลงต่อสัญญาสัมปทานที่ค้างคาอยู่ใช่หรือไม่ จึงอยากให้รัฐบาลออกมาสร้างความชัดเจนในเรื่องนี้ด้วย

นายชนินทร์กล่าวอีกว่า การดูแลค่าใช้จ่ายในระบบขนส่งมวลชนสาธารณะในช่วงที่พี่น้องประชาชนกำลังยากลำบาก จำเป็นต้องได้รับการพิจารณาให้เหมาะสม รัฐบาลต้องเป็นคนกลางในการแก้ปัญหาเรื่องการจัดเก็บรายได้ของเอกชนผู้ประมูลสัมปทานเดินรถ โดยพิจารณามาตรการช่วยเหลือเอกชนอย่างทันท่วงที เช่น อุดหนุนเงินสมทบชดเชยค่าโดยสาร, ลดภาระเงินจ่ายคืนรัฐตามสัมปทานที่ประมูลไว้ หรือตั้งกองทุนขึ้นมาสมทบเงินเพื่อควบคุมราคาในช่วงนี้ เป็นต้น ดังที่มีการทำอย่างแพร่หลายในหลายๆประเทศ อย่าปล่อยให้ภาระทุกอย่างต้องมาตกที่ค่าครองชีพประชาชน
.
“รัฐบาลชุดนี้บริหารประเทศแบบคนตาบอด ซำ้เติมความลำบากยากแค้น ของพี่น้องประชาชน หากไม่มีใครออกมาบ่นหรือด่า ไม่มีใครออกมาเรียกร้อง อาจตายจากพิษเศรษฐกิจตามยถากรรมในไม่ช้า” นายชนินทร์กล่าว